On the Way Home EP.44 หนูน้อยนกขมิ้น นักร้องที่โจโฉหลั่งน้ำตาให้

25 ธันวาคม 2020 203 ครั้ง

On the Way Home EP.44 หนูน้อยนกขมิ้น นักร้องที่โจโฉหลั่งน้ำตาให้

วันนี้มีเรื่องราวความรักจาก 2 เรื่อง 2 มุมมองมาเล่าให้ฟัง เรื่องหนึ่งเป็นรักที่ต้องการครอบครอง จนนำมาสู่การทำร้ายกัน และอีกเรื่องหนึ่งเป็นรักที่ยอมสละชีวิตแทนได้ แม้เขาจะไม่ได้รักกลับเลยก็ตาม มาติดตามความรักทั้ง 2 เรื่องนี้ได้ใน On the Way Home EP.44 หนูน้อยนกขมิ้น นักร้องที่โจโฉหลั่งน้ำตาให้

 

เรื่องราวความรักทั้ง 2 เรื่องนี้ เป็นเรื่องราวในหนังสือ “หลายชีวิตในพงศาวดารจีน” ของ ล.เสถียรสุต (เลียง เสถียรสุต) ซึ่งเป็นหนังสือที่รวบรวมเรื่องของบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์จีนที่มีบันทึกเอาไว้ มาเล่าให้ฟังแบบง่าย ๆ

 

 

เรื่องที่ 1 คานมี นักพิณเอกตาบอด

 

คานมี มีชีวิตอยู่ในสมัยราชวงศ์ถัง เป็นชนเผ่าเตอร์กีหรือว่า เติร์ก แคว้นคานการ์ พเนจรมาอยู่ในนครเชียงอาน แล้วเกิดมีความรักกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นแม่มด (แม่มดในที่นี้ หมายถึงคนที่มีความเชื่อว่า สามารถติดต่อกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ วิญญาณ และทำพิธีกรรมเกี่ยวกับการรักษา แก้อาถรรพ์ต่าง ๆ ได้ ซึ่งคนทั่วไปไม่สามารถทำได้)

 

เริ่มเรื่องเลยคือ คานมีเดินทางมานครเชียงอานในสมัยกษัตริย์อีจง มาพร้อมกับกองเกวียนของชาวคานการ์ เมื่อมาถึงได้ไปชมพระราชพิธีถวายเพลแด่พระภิกษุสงฆ์ 10,000 รูป ซึ่งฮ่องเต้ทรงบำเพ็ญอยู่ พอได้มาเห็นพิธีการอันสง่างาม เห็นความเจริญรุ่งเรืองของบ้านเมือง ชีวิตครอบครัวที่มีแต่ความอบอุ่น ร่มเย็น ปกติสุขก็เกิดความพอใจในชีวิตใหม่ จึงพักอยู่ในนครเชียงอานหรือว่าซีอานต่อไป

 

คานมีมากับม้าเป็นพาหนะแล้วก็มีพิณเป็นเครื่องมือสำคัญในการใช้เลี้ยงชีพ เขาท่องเที่ยวไปตามเมืองต่าง ๆ ผ่านชีวิตอันอิสระเต็มไปด้วยความสุข ไปที่ไหนก็มีแต่คนห้อมล้อม ชื่นชม และต้อนรับเสียงพิณของเขาเป็นอย่างดี

 

ขณะที่คานมีดีดพิณอยู่ที่ศาลาพักรอม้าแห่งหนึ่งที่ชนบท เขาได้มาเจอกับแม่มดเจ้าเสน่ห์ จนในที่สุดก็แต่งงานกัน

 

ตอนแรก ๆ ชีวิตของทั้งคู่ก็มีความสุขเป็นไปด้วยดี คือได้เดินทางไปตามเมืองต่าง ๆ และได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากชาวเมือง แต่ในไม่ช้า ทางการประกาศห้ามอาชีพแม่มด เพราะถือเป็นการล่อลวงประชาชน และแม่มดในยุคนั้นชอบสร้างข่าวอกุศลทำให้การปกครองปั่นป่วน ถึงกับให้ลงโทษอย่างหนัก คือประหารชีวิตแม่มด แม่มดซึ่งเป็นภรรยาของคานมีจึงยกเลิกการเดินทางในการที่จะตระเวนไปประกอบอาชีพหรือทำพิธีกรรมตามที่ต่าง ๆ แล้วก็ต้องหลบพักอยู่ชนบทแห่งหนึ่งอย่างเงียบ ๆ

 

ในขณะที่คานมีซึ่งคุ้นเคยกับการเดินทาง ไม่ชอบอยู่กับที่ ไม่ชอบอะไรซ้ำซากจำเจ เลยคิดที่จะหลบหนีไปจากแม่มด แต่ไปได้ไม่ไกลนักก็ถูกแม่มดตามจับกลับมา แม่มดโกรธมาก ลงโทษคานมีด้วยการควักนัยน์ตาออก เพื่อตัดหนทางไม่ให้คานมีหนีต่อไปอีก

 

คานมีเลยกลายเป็นคนตาบอด พอเรื่องทราบถึงพรรคพวก ซึ่งเป็นกองเกวียนชาวคาการ์ พวกเขาก็โกรธมาก จึงล้อมจับแม่มดนำส่งทางการ แล้วก็ลักพาตัวคานมีกลับไปยังแคว้นคาการ์ซึ่งเป็นบ้านเดิม

 

แต่แม่มดสามารถหลบหนีไปได้ระหว่างทางที่ถูกส่งตัวไป อย่างไรก็ตามกองเกวียนคาการ์ก็พยายามตามจับจนกระทั่งจับได้อีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้พวกเขาไม่ได้นำส่งทางราชการ แต่ตั้งศาลเตี้ย พิพากษาลงโทษแม่มดเลย โดยการจับแม่มดไปมัดไว้กับต้นไม้ ตัดหู ตัดจมูก นิ้วมือ และเท้า แล้วก็ปล่อยให้แม่มดตายในกลางป่าอย่างทารุณเพื่อแก้แค้นที่แม่มดคนนี้ทำไว้กับคานมี

 

เมื่อคานมีเดินทางไปถึงบ้านเดิมแล้ว เขายังคงคิดถึงความสนุกสนานของนครเชียงอาน จึงเดินทางกลับมาอีกครั้ง การเสียตาครั้งนั้นกลับทำให้คานมีเล่นพิณได้ดียิ่งขึ้น ประสาทสัมผัสการฟังมีความแม่นยำและคมชัดมากกว่าเดิม

 

ต่อมาเกิดความระส่ำระสายในราชสำนัก เมืองต่าง ๆ ก่อตัวเป็นอิสระขึ้นหลายแห่ง แต่เสียงพิณของคานมีก็ยังคงมีผู้นิยม จูชวนตง ซึ่งเป็นหัวหน้าก๊กใหญ่ในยุคนั้นได้เรียกตัวคานมีเข้าไปเป็นนักดนตรีหลวง ในที่สุดคานมีก็พเนจรมาทางใต้ ได้เป็นนักดนตรีของก๊กเสฉวน จนกระทั่งถึงแก่กรรมไป

 

 

เรื่องที่ 2 นักร้องสาวซึ่งโจโฉต้องหลั่งน้ำตาให้

 

โจโฉเป็นตัวละครเด่นตัวหนึ่งในเรื่องสามก๊ก มีพรสวรรค์ทั้งการทหาร การเมือง และการประพันธ์ ในชีวิตส่วนตัวยังเป็นนักรักผู้ยิ่งใหญ่อีกด้วย ในตอนที่ยังมีชีวิตและเรืองอำนาจอยู่ ก็มีนักร้องคนหนึ่งชื่อว่า เองยี้ แปลเป็นภาษาไทยว่า หนูนกขมิ้น เป็นนักร้องสาวที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ในนครโลยาง ไม่เพียงแต่จะร้องเพลงได้ไพเราะ แต่เธอยังสวยเหนือกว่านักร้องสาวอื่น ๆ เธอภาคภูมิใจในตัวเอง จนกระทั่งกลายเป็นคนที่เย่อหยิ่ง

 

หนูนกขมิ้นไม่สนใจ ใครจะมาจีบ มาชอบ เธอก็ไม่มอง เธอต้องการสามีที่สูงส่ง โจโฉเมื่อมาเจอกับเธอก็ชอบ ก็ขอมาเลี้ยงไว้ หนูนกขมิ้นก็พอใจที่ได้มาอยู่กับโจโฉผู้ยิ่งใหญ่ แต่ในระหว่างนั้นโจโฉก็ไม่ได้มีหนูนกขมิ้นคนเดียว ยังมีคนอื่น ๆ ด้วย

 

เนื่องจากโจโฉต้องออกทำศึกอยู่เสมอ หนูนกขมิ้นก็ต้องติดตามโจโฉไปตามเมืองต่าง ๆ แล้วก็ร้องเพลงให้ฟังในยามว่าง พอนาน ๆ เข้าหนูนกขมิ้นก็เริ่มเบื่อหน่ายขึ้นเป็นลำดับ ข้อสำคัญคือ โจโฉไม่ได้รักเธอในฐานะภรรยา ในไม่ช้าไม่นาน หนูนกขมิ้นก็ไปรักกับนายทหารคนสนิทของโจโฉ

 

โจโฉเป็นผู้ไม่สนใจในเรื่องศีลธรรม เฉพาะอย่างยิ่งไม่สนใจศีลธรรมเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ไม่เคยหึงหวงเด็ก ๆ ของตัวเอง ไม่ช้านานโจโฉก็ทราบเรื่องชู้ของหนูนกขมิ้น เนื่องจากคืนหนึ่ง โจโฉสั่งให้นายทหารคนสนิทผู้นั้นออกตรวจแนวหน้า แต่นายทหารคนสนิทลืมเพราะมัวไปจู๋จี๋กับหนูนกขมิ้น

 

โจโฉเป็นผู้เคร่งครัดในวินัยทหารจึงสั่งประหารชีวิตนายทหารคนสนิทฐานละเลยคำสั่งทันที เมื่อคำสั่งทราบไปถึงหนูนกขมิ้น หนูนกขมิ้นก็รีบไปพบโจโฉ รับสารภาพว่าตนได้เป็นชู้กับนายทหารผู้นี้มาเป็นเวลาช้านาน และเป็นความผิดของเธอเองที่ทำให้นายทหารลืมคำสั่งไป เธอจึงขอตายแทนนายทหาร และรับว่าก่อนที่เธอจะตายเธอจะฝึกนักร้องสาวมาแทนเธอให้ได้ภายใน 1 เดือน โจโฉได้รับทราบเรื่องนี้ด้วยความแปลกใจเป็นอย่างยิ่ง ไม่นึกว่าเธอจะกล้าเสนอเงื่อนไขเช่นนี้ โจโฉเป็นผู้รักคนกล้าหาญและมีความคิดแปลก ๆ จึงอนุญาตตามที่หนูนกขมิ้นขอ

 

หนูนกขมิ้นได้คัดเลือกหญิงสาวมา 4 คน แล้วพยายามฝึกสอนร้องเพลงกระทั่งเมื่อนำไปร้องให้โจโฉฟัง และโจโฉรับว่าพอใช้ได้แล้วเธอก็ขอลาไปตาย โจโฉบอกให้ไปพบกับนายทหารคนนั้นก่อน เธอก็ว่าไม่จำเป็นเพราะไม่มีอะไรจะพูด โจโฉจึงเรียกนายทหารนั้นมาเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง และถามความรู้สึกของเขา แล้วโจโฉก็ได้รับคำตอบที่บันดาลโทสะเป็นที่สุด เพราะนายทหารคนนั้นตอบว่า ที่ทำไปนั้นเป็นเรื่องสนุกชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น หนูนกขมิ้นไม่น่าจะถือเป็นเรื่องจริงจัง เขาเองก็ไม่ได้รักหนูนกขมิ้นและก็ไม่ได้สนใจเรื่องเสียงเพลง เคราะห์ดีที่โจโฉรับปากกับหนูนกขมิ้นที่จะไว้ชีวิตเขา มิฉะนั้น โจโฉต้องชักดาบฟันนายทหารคนนี้ตายคาที่แน่ จึงเพียงแต่ไล่ออกจากตำแหน่งเท่านั้น

 

โจโฉย้อนไปเรียกหนูนกขมิ้นมาเล่าเรื่องนายทหารคนนั้นให้ฟัง และอนุญาตให้หนูนกขมิ้นไม่ต้องตายตามที่สัญญาไว้ แต่ก็ได้รับคำตอบที่แปลกไปกว่าคำตอบใด ๆ อีก เธอตอบว่า นายทหารจะรักเธอหรือไม่ประการใดก็ตาม แต่เธอรักนายทหารคนนี้มาก และเมื่อเธอให้สัญญาว่าจะตายแทนแล้ว เธอก็จะต้องตายแทน ครั้นแล้วเธอก็นั่งกราบโจโฉ 4 ครั้ง ซึ่งหมายความว่าเป็นการลาจาก แล้วก็แขวนคอตายในคืนนั้น

 

นัยว่าโจโฉได้หลั่งน้ำตาให้แก่เธอ ซึ่งเป็นการหลั่งน้ำตาให้แก่พวกเล็กเล็ก ครั้งหนึ่งครั้งเดียวในชีวิตของโจโฉผู้ยิ่งใหญ่

 

 

 

 

 

ผู้ดำเนินรายการ:  รัศมี มณีนิล

บรรณาธิการ:  นันทิญา จิตตโสภาวดี

กองบรรณาธิการ: นมิดา แพ่งสภา, ปัณณธร ใสแสง, รุจา สุขพัฒน์, นีรชา คัมภิรานนท์, สุสมา สุขพัฒน์

ศิลปกรรม:  ฐานิสร์  ริ้วสุวรรณ, เอกชัย เธียรสรรชัย
นักออกแบบเสียง:  ธัญธนวรัท  ชนกชัด

ฝ่ายผลิต: ชลธิศ กรดี

ที่ปรึกษา:  วันชัย  บุญประชา, ดร.สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน

สนับสนุนโดย  สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

 

 

 

OTHER