ตอนนี้คงไม่มีเรื่องไหนสำคัญเท่ากับเรื่องไวรัส Covid-19 ที่กำลังระบาดอยู่ทั่วโลกมาตั้งแต่ต้นปี และสถานการณ์ในประเทศไทยเองก็ดูจะรุนแรงมากขึ้นทุกขณะ!

ในสถานการณ์แบบนี้ทุกคนก็มีความวิตกกังวล ติดตามข่าวกันทุกวัน ถือเป็นเรื่องใกล้ตัวของทุกคน เพราะเป็นเรื่องสุขภาพ แน่นอนว่าเราต้องป้องกันตัวเอง เพราะไม่ใช่แค่สุขภาพเราเท่านั้นที่ต้องดูแล ยังกระทบถึงสุขภาพของคนที่เรารักทุกคน ฉะนั้นตื่นตัว แต่ต้องไม่ตื่นตระหนก เอาเท่าที่เราดูแลคนในครอบครัวได้ อย่ากักตุนจนเยอะเกินไป ไม่งั้นถ้าเกิดผลกระทบก็ย้อนมาที่ตัวเราอยู่ดี

ถึงแม้โรคระบาดจะเกิดขึ้นกระทันหัน แต่ก็ยังมีตัวอย่างของประเทศรอบข้างให้เราเห็น และอีกอย่างคือเราต้องรู้เท่าทันสื่อ ดูแลสุขภาพจิตตัวเองด้วย

แม้ว่าโรคนี้จะเพ่งเล็งไปที่ผู้สูงวัย แต่เราอย่ามองข้ามเด็ก ๆ ในแง่ของการมีตัวตน การเรียนรู้ของลูกเรา

ขอยกตัวอย่างข่าวจากประเทศนอร์เวย์ ว่าเขาให้ความสำคัญกับเด็ก ๆ ในประเทศเขากันอย่างไรบ้าง

อานา ซูลบาร์ก นายกรัฐมนตรีประเทศนอร์เวย์ มีการแถลงข่าวพร้อมกับ รมต.สาธารณสุข และรมต.กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อตอบคำถามเด็ก ๆ เกี่ยวกับ Covid-19 งานนี้ไม่อนุญาตให้ผู้ใหญ่ถาม มีแต่คำถามของเด็กเท่านั้น ซึ่งก็มีส่งเข้ามามากมาย เช่น หนูจะจัดงานวันเกิดได้ไหม / จะไปเยี่ยมคุณปู่คุณย่าหลังจากไปเที่ยวห้างได้หรือเปล่า / ใช้เวลานานไหมกว่าจะผลิตวัคซีนได้ / หนูจะช่วยอะไรได้ไหม

ซึ่งประเทศนอร์เวย์ก็เหมือนกับทุกประเทศที่ประกาศปิดโรงเรียน ปิดสถานที่ต่าง ๆ กันไปแล้ว เด็ก ๆ จึงต้องอยู่บ้าน และคำตอบที่นายกรัฐมนตรีนำมาตอบเด็ก ๆ ก็น่ารักมาก เช่น “ไม่เป็นไรที่เราจะรู้สึกกลัวเวลาที่มีอะไรเกิดขึ้นหลาย ๆ อย่าง” “แม้ว่าพ่อแม่จะติดเชื้อ แต่เราก็จะผ่านไปได้” “พวกหนูจะอยู่ที่บ้านนั่นคือการช่วยแล้ว เพราะนี่สำคัญมาก ๆ สำหรับผู้ที่ไม่สบาย”

นี่คือตัวอย่างสำคัญของการเห็นความสำคัญของการเรียนรู้จากสถานการณ์จริงของเด็ก คือไม่ว่าจะเกิดวิกฤติยังไง แต่เราเอาความรู้มาสอดแทรก สร้างปัญญาจากปัญหาได้ เป็นการสร้างการเรียนรู้ให้กับเด็ก ๆ ด้วย ซึ่งการทำเช่นนี้สิ่งที่เด็กจะได้รับคือ สร้างเสริมความภูมิใจให้กับเด็ก ให้เขาเห็นคุณค่าในตัวเอง ทำให้เขารับมือกับความรู้สึกและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ สร้างการเรียนรู้ให้กับเด็ก แม้จะเป็นเด็ก แต่เขาก็เป็นส่วนหนึ่งของสังคม เป็นการสร้างรากฐานของสังคม เด็กตระหนักว่าตัวเองเป็นแนวร่วมที่สำคัญ ก็จะปฎิบัติตัวเองได้ดีและถูกต้อง

การสร้างความเชื่อมั่น การเปิดให้แสดงความคิดเห็นบ่อย ๆ จะทำให้เด็กฝึกคิด และแก้ปัญหาได้ การสร้างแบบอย่างที่ดี สิ่งที่ผู้ใหญ่ทำในวันนี้เป็นกระจกสะท้อนเป็นอย่างดี เราเองก็ลองนำโอกาสนี้ มาพูดคุยกับลูกของเรา พูดคุยเกี่ยวกับอารมณ์ความรู้สึก พูดถึงข้อมูลที่ถูกต้องที่เชื่อถือได้ ไม่ใช่แค่เรียนออนไลน์ด้านวิชาการปกติตามแนวทางที่ออกมาเท่านั้น แต่เราควรเอาปัญหาเป็นฐานแล้วจัดการเรียนรู้ใหม่ขึ้นมา ในสถานการณ์แบบนี้มีปัญหาเกิดขึ้นมากมาย เราเอามาเรียนรู้ได้

เราไม่อยากให้ย่ำอยู่แต่ในปัญหา เราเองควรคิดอะไรที่สามารถใช้วิกฤตินี้มาสร้างการเรียนรู้ แล้วเด็ก ๆ ของเราก็จะเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพมากในวันข้างหน้า

ผู้ดำเนินรายการ:  ดร.สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน

บรรณาธิการ:  นันทิญา จิตตโสภาวดี

กองบรรณาธิการ: นมิดา แพ่งสภา, ปัณณธร ใสแสง, รุจา สุขพัฒน์, นีรชา คัมภิรานนท์, สุสมา สุขพัฒน์

ศิลปกรรม:  ฐานิสร์  ริ้วสุวรรณ, เอกชัย เธียรสรรชัย
นักออกแบบเสียง:  ธัญธนวรัท  ชนกชัด

ฝ่ายผลิต: ชลธิศ กรดี

ที่ปรึกษา:  วันชัย  บุญประชา, ดร.สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน

สนับสนุนโดย  สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)