ปลดล็อกกับหมอเวช EP.08 ท่ามกลางวิกฤติ ให้นำด้านที่ดีที่สุดของคุณออกมา
ปลดล็อกกับหมอเวช EP.08 ท่ามกลางวิกฤติ ให้นำด้านที่ดีที่สุดของคุณออกมา
การที่สมาชิกในสังคมสามารถนำด้านที่ดีที่สุดออกมา คนที่จะได้ประโยชน์ก็คือสังคมโดยรวม แต่ถ้าทุกคนต่างแสดงด้านมืด เพราะตัวเองกำลังกลัวและเครียด หรือกำลังไม่สนใจว่าโลกกำลังเกิดอะไรขึ้น ตรงนั้นเป็นเรื่องของการเอาแต่ใจ ซึ่งเราเห็นอยู่มากที่เป็นปรากฎการณ์ในสังคมไทยตอนนี้ ดังนั้นในสถานการณ์ที่เราจะต้องเจอกับวิกฤติในเรื่องนี้ไปอีกนาน เราจะนำเอาด้านที่ดีที่สุดของตัวเราออกมาได้อย่างไร
3 มาตรการที่สามารถนำด้านที่ดีที่สุดของตัวเราออกมาได้
มาตรการที่ 1 จัดการความกลัวในใจตัวเอง
ความเครียด ความกังวล และความกลัว ทำให้เราเปิดระบบสัญญาณอันตรายในสมอง เน้นการเอาตัวรอด มองเห็นแต่แง่มุมของตัวเอง ก่อให้เกิดพฤติกรรมเห็นแก่ตัว แก่งแย่งกัน พฤติกรรมแบบนี้ล้วนสร้างผลเสียต่อการจัดการการแพร่ระบาด เราจึงจำเป็นต้องเรียนรู้การจัดการความกลัว ดังนี้
1. รับรู้ข่าวสารอย่างถูกต้อง คือ รับจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ อย่ารับมากเกิน
2. เรียนรู้การจัดการความคิดวน
3. ดูแลระบบชีวิตขั้นพื้นฐาน (กิน นอน ออกกำลังกาย ผ่อนคลาย พูดคุย)
4. ทำสิ่งที่ทำได้ด้วยตัวเรา อย่ามัวแต่บ่น กล่าวโทษคนอื่น ลองตั้งคำถามว่าคุณทำอะไรได้บ้าง
สาเหตุที่เรื่องเหล่านี้ช่วยจัดการความกลัวได้ เพราะทันทีที่เราลงมือทำ ใจของเราจะจดจ่อกับการทำให้ดีขึ้น ซึ่งทำให้เราคลายวิตกจากความกังวลลง จากนั้นก็ต้องจัดเวลาให้มีความสงบภายในใจ เพื่อจะได้ถอยจากเรื่องต่าง ๆ นี้เป็นการฝึกทักษะผ่อนคลาย
5. เรียนรู้ที่จะอยู่กับความไม่แน่นอนของชีวิต ถ้าจะดีไปกว่านั้น คือ การฝึกเผชิญหน้ากับความตาย เพราะความตายเป็นแม่ของความกลัวทั้งหมดทั้งมวล ถ้าเราสามารถเผชิญหน้ากับความตายได้ และเข้าใจสัจธรรม เข้าใจความไม่แน่นอนของชีวิต เราจะกลัวอะไรน้อยลงไปเยอะเลย
ในเรื่องความกลัว มีคำแนะนำทางจิตวิทยาข้อหนึ่ง คือ สิ่งที่คุณควรจะกลัวก็คือ การที่คุณจัดการความกลัวอย่างผิดวิธี เพราะจะทำให้คุณนำด้านมืดของคุณออกมา
มาตรการที่ 2 เปิดใจมองจากมุมของคนอื่น
ในสภาวะกดดัน เรามีแนวโน้มจะมองจากมุมของตัวเรา ซึ่งถ้าแต่ละคนมองจากมุมของตัวเอง ก็จะเกิดความขัดแย้งขึ้น แต่เนื่องจากเรายังต้องอยู่ร่วมกันในสังคม และมนุษย์มีความสามารถในการร่วมแรงร่วมใจกัน จึงไม่มีอะไรดีไปกว่าการเรียนรู้ที่จะช่วยกันในยามยาก ซึ่งการระมัดระวังสัญชาติญาณที่เราจะเห็นจากมุมของตัวเราเอง มีหลักอยู่ 3 ข้อ ดังนี้
1. ฝึกทำความเข้าใจในมุมมองคนอื่น คำว่าเข้าใจ ไม่ได้แปลว่าต้องเห็นด้วย แต่แปลว่าถ้าเราเข้าใจเขา เราอาจจะคาดการณ์พฤติกรรมเขาได้
2. เวลาที่เราเริ่มฝึกเข้าใจมุมมองของคนอื่น เราจะเรียนรู้และรับรู้ความทุกข์และความกังวลในใจคนอื่นได้ง่ายขึ้น แล้วเราจะเห็นความเหมือนกันระหว่างเขากับเรา อย่างตอนนี้ทุกคนมีความกังวลใจ อาจจะกังวลคนละเรื่อง เช่น คนที่ต้องมีรายได้เป็นรายวัน เชื่อว่าเขาต้องลำบากมาก เพราะเขาไม่มีหลักประกันอย่างอื่น เราก็จะสามารถรับรู้ได้ถึงความทุกข์ ความกังวล และบางครั้งอาจทำให้เห็นว่า พฤติกรรมของเขาถูกกำหนดจากเงื่อนไขชีวิตของเขา
3. อยากให้มองคนที่ลำบากกว่าเรา น่าเห็นใจกว่าเรา คนที่ขาดรายได้กระทันหันและไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม คนเหล่านี้คือคนที่น่าเห็นใจ และคนเหล่านี้คือคนที่อาจจะไม่ได้ทำตามมาตรการของรัฐ เพราะเขาจำเป็นที่จะต้องหาวิธีอยู่รอด
การที่เราเข้าใจมุมมองคนอื่น เข้าใจธรรมชาติของมนุษย์ จะทำให้เรามีมาตรการระดับท้องถิ่น ชุมชน ที่จะเอื้อให้คนทุกคนสามารถอยู่ได้ และช่วยกันป้องกันการแพร่ระบาด ขณะเดียวกันการที่เราเห็นใจและเชื่อมโยงกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ตรงนี้ คือพลังที่จะช่วยให้สังคมเราผ่านเหตุวิกฤติในครั้งนี้ได้
มาตรการที่ 3 มองตัวเองจากโลกอนาคต
ขอเสนอใน 2 ประเด็นย่อย คือ
ประเด็นย่อยที่ 1 ถ้าเราอยากจะวางตัวเองได้ถูกต้อง ให้สมมติตัวเองว่า ถ้าเวลาผ่านไปจากวันนี้ประมาณสัก 2 ปี เราในอนาคตมองกลับมาที่เราในวันนี้ อยากเห็นเราในปัจจุบันเป็นอย่างไร ทำสิ่งที่ถูกต้องแม้จะกลัว ทำสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ แบ่งปันช่วยเหลือคนอื่นในยามยาก หรืออยากเห็นตัวเองสติแตก ทำเรื่องที่น่าละอาย ทำสิ่งที่เห็นแก่ตัว และเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ ถ้าคุณตระหนักในคำตอบนี้ ก็จะช่วยทำให้คุณเตือนตัวเองได้ว่า คุณอยากเป็นคนยังไง ไม่อย่างนั้นสมองเราจะทำงานแต่เฉพาะหน้า มีโจทย์เข้ามาคุกคามเราก็แก้เป็นรายครั้งไป แต่ถ้าคุณมองยาว ๆ คุณจะเริ่มรู้ว่าคุณอยากเป็นคนยังไง แล้วคุณสามารถวางตัวเองให้ดีขึ้นได้ ตามแบบที่คุณอยากจะเป็น
ประเด็นย่อยที่ 2 โลกตอนนี้กำลังเปลี่ยนไป และการเปลี่ยนแปลงนี้จะไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงชั่วคราว มีนักคิดหลายคนที่เสนอแนวคิดเกี่ยวข้องกับโลกหลังการแพร่ระบาดไว้ว่า
1. โลกที่เปลี่ยนไปนี้ เกิดการจัดระบบใหม่ คือ ขั้วอำนาจที่เคยอยู่ในซีกโลกตะวันตก จะขยับมาทางซีกโลกตะวันออกมากขึ้น ซึ่งนี่เป็นแนวโน้มที่มีมาอย่างต่อเนื่องแล้ว
2. เหตุการณ์ครั้งนี้จะทำให้ประเทศต่าง ๆ เกิดการพึ่งพาตัวเองมากขึ้น จะเริ่มกลับมามองตัวเอง แล้วพยายามทำให้ระบบการดูแล การผลิตสินค้าบริการสำคัญ ๆ มีความครบวงจรในประเทศมากขึ้น ไม่มีการจ้างประเทศอื่นผลิตส่งมาให้ในแบบเดิม แนวโน้มนี้ในมุมหนึ่ง ถ้ามองในแง่ดี ก็คือการที่ประเทศจะต้องออกแบบระบบที่พึ่งพาตัวเองได้ภายใน แต่ก็ยังเกื้อกูลกันได้ระหว่างกัน ซึ่งคล้ายกันมากกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง รัชกาลที่ 9
3. เศรษฐกิจยังไม่ล่มสลาย แต่เศรษฐกิจกำลังปรับโครงสร้างใหม่ ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นจะผลักดันให้เกิดการก้าวเข้าสู่สังคมดิจิทัลเร็วขึ้น นั่นหมายถึง เราจะต้องปรับตัว ธุรกิจ การใช้ชีวิตจะเปลี่ยนไป
ประเด็นสุดท้ายที่จะคุยในครั้งนี้ คือ ค่านิยมของคนในสังคมจะเผชิญกับบททดสอบครั้งใหญ่ จากเดิมสังคมตะวันตกได้ชูประเด็นของปัจเจกคือให้สิทธิส่วนบุคคลสูง ในขณะที่สังคมซีกโลกตะวันออกจะถูกมองว่าเป็นสังคมที่ Collective Society คือสังคมที่ให้ความสำคัญกับกลุ่มก้อนหรือการรวมหมู่ ซึ่งนั่นแปลว่า จะเกิดการขยับของค่านิยม
ขณะที่เรากำลังเผชิญสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส เรากำลังพยายามจะเอาตัวรอด เรากำลังจัดการชีวิต ผลกระทบทางสุขภาพและการเงิน เรากำลังปรับตัวกับวิถีชีวิตใหม่ เรากำลังต้องการการออกแบบชีวิต ธุรกิจ และสิ่งสำคัญในชีวิตที่เปลี่ยนไป ซึ่งคุณอาจจะเริ่มต้นได้วันนี้เลย เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นโอกาสหรือเป็นวิกฤติ แล้วแต่ว่าเราจะนำมาทบทวนและต้องออกแบบหาทางเพื่อช่วยให้เรามีชีวิตได้ดีในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้
ผู้ดำเนินรายการ: นพ.ประเวช ตันติพิวัฒนสกุล
บรรณาธิการ: นันทิญา จิตตโสภาวดี
กองบรรณาธิการ: นมิดา แพ่งสภา, ปัณณธร ใสแสง, รุจา สุขพัฒน์, นีรชา คัมภิรานนท์, สุสมา สุขพัฒน์
ศิลปกรรม: ฐานิสร์ ริ้วสุวรรณ, เอกชัย เธียรสรรชัย
นักออกแบบเสียง: ธัญธนวรัท ชนกชัด
ฝ่ายผลิต: ชลธิศ กรดี
ที่ปรึกษา: วันชัย บุญประชา, ดร.สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน
สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
OTHER
อาการไม่สบาย แบบไหนไข้หวัด แบบไหนโควิด สังเกตอย่างไร
14 เมษายน 2020
สารคดี เราจะสู้ไปด้วยกันเมื่อน้องหมาดุร้ายก้าวร้าวจนคุมไม่อยู่ คุณจะจัดการอย่างไร มาฟังเรื่องราวของ “เจ้าเจิด” สุนัขจรที่ถูกเลี้ยงดูจนเสียหมากันค่ะ
13 มิถุนายน 2020
ไอ้ตัวดีพ่อแม่ทุกคนต่างก็ปรารถนาอยากให้ลูกมีความสุข เวลาเด็ก ๆ มีความสุข อารมณ์ดี ก็จะทำให้เด็กมีสุขภาพจิตดี ร่าเริง กินได้ นอนหลับ ร่างกายเจริญเติบโตดี สุขภาพแข็งแรง แต่คุณพ่อคุณแม่เคยสังเกตไหมว่า ทำไมเด็กยิ่งโต ความสุขกลับยิ่งลดลง และมีแนวโน้มที่จะมีความเครียดเพิ่มมากขึ้น ?
21 เมษายน 2021
Mom Gen 2วันนี้มีเรื่องของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของ “คุณปู่” ซึ่งเธอเรียกว่า “อากุ๊ง” ให้ได้ติดตามกัน หนึ่งเรื่องราวที่น่าประทับใจคือ เรื่องราวความรักของคุณปู่ที่มีต่อคุณย่า จนเป็นที่มาของชื่อตอนในอีพีนี้ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรติดตามได้ใน On the Way Home EP.43 เรื่องของอากุ๊ง ต้นธารแห่งความรัก
18 ธันวาคม 2020
On the Way Home