การพาพ่อแม่ ผู้สูงวัยไปทานอาหาร นอกบ้าน หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องง่าย ๆ แต่เคยสังเกตไหมว่า หลายครอบครัวไม่ค่อยจะประสบความสำเร็จในเรื่องนี้สักเท่าไร อาจจะล่มตั้งแต่ยังไม่ออกจากบ้าน หรือออกไปทานข้าวกลับมาก็เกิดอาการงอนกันระหว่างลูกกับบุพการรี ไม่คุยกันซะหลายวัน กลายเป็นเรื่องที่หนักใจสำหรับหลาย ๆ ครอบครัว วันนี้เรามีคำตอบdy[

รายการ "เอา Gen เขา มาใส่ใจเรา" เป็นการพูดถึงการอยู่ร่วมกับพ่อแม่ผู้สูงวัยอย่างมีความสุข โดยมีผู้ร่วมดำเนินรายการที่มีความเชี่ยวชาญด้านผู้สูงวัย ที่ทำงานในศูนย์ผู้สูงอายุมากว่า 5 ปี และใช้ชีวิตจริงอยู่กับผู้สูงวัยมาตลอด "อาจารย์แววตา เอกชาวนา"

            หลายคนโดยเฉพาะลูก ๆ ที่ใช้ชีวิตร่วมกับพ่อแม่ผู้สูงวัย มักจะมีปัญหามากมาย ทำให้บางครั้งแทนที่จะใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขกลับต้องมาไม่สบายใจเมื่อกลับเข้าบ้าน รายการนี้ก็จะมาตอบปัญหาเหล่านั้นในการอยู่ร่วมกันอย่างไรให้มีความสุข

เรื่องแรกที่จะคุยกันในวันนี้เรียกว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดปัญหามากที่สุด นั่นคือ การพาท่านออกไปทานอาหารนอกบ้าน โดยเฉพาะเทศกาลสำคัญ ที่เราก็หวังว่าจะให้ท่านได้มีโอกาสออกไปเปิดหูเปิดตา พาไปทานอะไรอร่อย ๆ แต่ไป ๆ มา กลับมาบ้านก็เกิดปัญหากัน งอนกันซะอย่างนั้น หรือนัดกับเสียดิบดี อีกครึ่งชั่วโมงจะออกจากบ้าน พ่อแม่ผู้สูงวัยเกิดอาการงอนกัน ไม่ไปซะอย่างนั้น  แล้วสุดท้ายลูก ๆ ก็ไม่คิดจะพาท่านออกไปทานข้าวนอกบ้านอีก ซึ่งเป็นอะไรที่ไม่ดีแน่นอน

ในตอนนี้ก็มีวิธีมานำเสนอ ให้การพาท่านออกไปทานข้าวนอกบ้านอย่างที่ทั้งสองฝ่ายมีความสุขนั่นก็คือ

1.    ต้องมีการวางแผน เหมือนในตอนที่เรายังเป็นเด็กท่านก็มีกลยุทธในการหลอกล่อเราให้ออกไปทานข้าวนอกบ้านได้ มาถึงวันนี้ก็เช่นกัน เราก็ต้องมีวิธีบอกท่านให้ไปทานข้าวนอกบ้านอย่างมีความสุข โดยการคำนึงถึงท่านมาก่อน คือต้องเข้าใจว่าท่านในตอนนี้ไม่มีเงินเดือน เพราะฉะนั้นเวลาไปทานข้าวนอกบ้านลองใช้ทริกนี้ดู ในขั้นตอนการเลือกร้าน ต้องบอกว่าเราอยากทานร้านนี้ เพราะถ้าบอกว่า ท่านชอบทานร้านนี้แล้วพาไปทาน ท่านก็จะคิดว่าท่านเป็นภาระเรา จะไม่ไปเอาเสียอย่างนั้น และที่สำคัญบอกท่านเนิ่น ๆ เพราะท่านจะได้มีเวลาเตรียมตัว เตรียมชุด เตรียมรองเท้า ถึงแม้ว่าปากจะบอกว่าไม่อยากออกไปแต่ลึก ๆ แล้วท่านอยากออกไปทานข้าวนอกบ้านทั้งนั้น

2.    ต้องรู้ว่าท่านชอบทานอาหารอะไร บางทีสิ่งที่เราชอบ ท่านอาจจะไม่ชอบก็ได้ อาหารที่ท่านคุ้นเคยจะเป็นสิ่งที่ทำให้ท่านมีความสุขมากที่สุดเพราะท่านไม่ต้องปรับตัว เลือกอาหารที่ท่านถูกใจ

3.    อย่าให้ท่านอดอาหารไปก่อนทานอาหารมื้อใหญ่เพื่อท่านจะได้ทานเยอะ ๆ ซึ่งวิธีนี้ไม่ควรทำ ควรให้ท่านทานอะไรรองท้องไปก่อน อาจจะเป็นนมสักครึ่งแก้วก็ได้ เผื่อรถในกรุงเทพฯ นั้นติด ระดับน้ำตาลในเลือดท่านจะได้ไม่ตกมาก และจะมีผลให้ท่านไม่งอนง่าย เพราะการที่น้ำตาลในเลือดต่ำมีผลทำให้โมโหง่าย หรือถ้าท่านไม่อยากทานก็ให้ท่านจิบน้ำไปก่อนก็ได้  เพราะน้ำมีผลต่อการทำงานของสมอง ป้องกันไม่ให้ท่านหงุดหงิดง่าย

4.    การชวนท่านไปทานข้าวที่ห้างสรรพสินค้าอีกสถานที่ที่ควรระวัง เพราะท่านอาจจะไม่ชอบขึ้นบันไดเลื่อน อีกทั้งอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายด้วย เพราะสายตาท่าน เมื่ออายุเลย 65 ปีไปแล้ว จะไม่ค่อยดี ทำให้งงกับบันไดเลื่อนที่เป็นร่องเล็ก ๆ ได้ ควรจะเลือกร้านที่อยู่บริเวณชั้น 1 ที่เข้าง่าย ๆ และเลือกร้านที่มีโต๊ะอาหารที่เวลาเดินไปห้องน้ำไม่ลำบากจนเกินไป เพราะท่านไม่อยากเป็นภาระให้ลูกหลาน

5.    ควรสร้างราคาโปรโมชั่นใหม่ ๆ ด้วยตัวเอง เพื่อไม่ให้ท่านกังวลใจในเรื่องของราคาอาหาร เพราะท่านอยากให้เราเก็บเงินไว้ใช้จ่ายยามจำเป็น

6.    เรื่องของอาหารต้องรู้ว่าท่านชอบอะไรและโรคประจำตัวขัดกับอาหารที่เราจะพาไปทานหรือไม่ พยายามสั่งอาหารที่เป็นกลาง ๆ ที่ทุกคนทานได้ และอย่าลืมคำนึงถึงอาหารที่สั่ง ควรเป็นของนิ่ม ๆ เคี้ยวง่าย ๆ

                 และทั้งหมดนั้นก็เป็นการเตรียมตัวในการพาท่านไปทานอาหารนอกบ้านอย่างที่ทำได้ไม่ยาก ที่เรียกได้ว่า ทานอาหารจบ ความสุขยังไม่จบ ติดตามเรื่องที่น่าสนใจในครั้งต่อไปได้ ในรายการ "เอา Gen เขา มาใส่ใจเรา"  ในครั้งต่อไป 

ผู้ดำเนินรายการ:  สันติภาพ นครจันทร์ และ อาจารย์แววตา เอกชาวนา

บรรณาธิการ:  นันทิญา จิตตโสภาวดี

กองบรรณาธิการ: นมิดา แพ่งสภา, ปัณณธร ใสแสง, รุจา สุขพัฒน์, นีรชา คัมภิรานนท์, สุสมา สุขพัฒน์

ถอดเทปเสียง: สันติภาพ นครจันทร์

ศิลปกรรม:  ฐานิสร์  ริ้วสุวรรณ, เอกชัย เธียรสรรชัย
นักออกแบบเสียง:  ธัญธนวรัท  ชนกชัด

ฝ่ายผลิต: ชลธิศ กรดี

ที่ปรึกษา:  วันชัย  บุญประชา, ดร.สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน

สนับสนุนโดย  สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)