ส่งต่อรักแบบแม่ EP.03 คุณแม่ตู่ (นันทิดา แก้วบัวสาย)

25 กันยายน 2020 130 ครั้ง

ส่งต่อรักแบบแม่ EP.03 คุณแม่ตู่ (นันทิดา แก้วบัวสาย)

"ชีวิตความเป็นนันทิดาที่ทุกคนรู้จักมาเป็นนักร้องเนี่ย พี่รู้สึกว่า พี่โชคดีนะที่พี่ได้เป็นทั้งลูก แล้วก็โชคดีที่มีใครคนหนึ่งเรียกเราว่าแม่ โชคดีสำหรับความเป็นนันทิดาตรงนี้" ติดตามมุมมองความเป็นแม่ของ "แม่ตู่ นันทิดา แก้วบัวสาย" ที่ถ่ายทอดความรักอันไพเราะผ่านประสบการณ์ต่าง ๆ ใน ส่งต่อรักแบบแม่ EP.03 คุณแม่ตู่ (นันทิดา แก้วบัวสาย)

 

คุณแม่ตู่: ขอให้เขาเป็นคนที่มีจิตใจที่เรามองเห็นแล้วว่า มันน่าจะไปในทางที่สว่าง ถ้าเขาเลือกไปในทางที่ไม่สว่าง เขาคงไปแล้ว เพราะเขาเลือกมาแล้วตอนช่วงที่หมิ่นเหม่มากในช่วงอายุนั้น แต่ทำไมเด็กคนนี้ถึงยิ่งพยายาม ยิ่งมุมานะอยากจะทำให้ดีและไปสุดโต่งมากสำหรับลูกคนนี้ เราเห็นจากการกระทำของเขา เพราะฉะนั้นขอให้ลูกมีจิตใจที่เขาจะยืนอยู่บนโลกใบนี้ได้นะคะ 

 

อย่างที่พี่บอกว่าไม่ทิ้งพระธรรม ไม่ทิ้งพระคัมภีร์ เราจะเป็นสิ่งที่เราพูดด้วยกันเสมอ ทุกวันนี้ไม่ว่าโลกเราจะเปลี่ยนแปลงไปยังไงก็ตามนะคะ โลกของโซเชียลมีเดียทุกวันนี้ มันมีทั้งข้อดีและไม่ดี มันอยู่ที่ว่าเขาจะเลือกเดินในทางไหน อยากให้เขามีจิตใจที่เข้มแข็ง ณ วันหนึ่ง พี่เองก็ต้องเรียนรู้เหมือนกันในวันที่เขาจะต้องไปมีชีวิตของเขาเอง ไปมีครอบครัวของเขา จุดตรงนี้เราก็ต้องเรียนรู้ที่จะต้องอยู่ แข็งแรงได้ด้วยตัวเราเองด้วย เรียนรู้จากจุดเปลี่ยนที่เรารักลูกมาก แต่ตอนนี้เรายังทำใจไม่ได้ถ้าเกิดวันหนึ่ง I ไปก่อน You หรืออะไรจะเกิดขึ้นเราไม่รู้ แต่ฉันต้องเรียนรู้ตรงนี้ที่จะทิ้งโลกใบนี้ให้ได้ก่อน 

 

เราอยากให้ลูกเรียนรู้จากชีวิตของเขา เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่าง เราคุยกันเสมอนะคะว่า You อายุ 13 ที่ไม่เหมือนเด็กคนอื่น อายุ 16 ที่ได้เรียนรู้ไม่เหมือนเด็กคนอื่น หลายอย่างมากเลยลูกที่หนูเรียนจากชีวิตจริง แม่ภูมิใจมากเลยลูก เขาก็บอกว่าสิ่งเหล่านั้นลูกได้เอามาเป็นบทเรียน

 

ทุกคนมีรากความขมขื่นของเรากันหมดทุกคน ของน้องเพลงรากแห่งความขมขื่นของเขาอาจเป็นที่เขาเห็นแม่ป่วยตั้งแต่เด็ก ๆ เขาไม่อยากเห็นแม่ป่วย ไม่อยากเห็นแม่เป็นอะไร พอแม่ป่วยปุ๊บเขาจะแบบรู้สึกแย่...อยากให้ลูกมีใจที่ไม่ว่าอะไรมากระทบเขา ใจเขาต้องแกร่ง พี่ห่วงตรงนี้ค่ะ เราไม่รู้อะไรจะเกิดขึ้น ทุกอย่างมันเป็นสิ่งที่จะต้องมากระทบหมดเลย ถึงบอกไงว่า “อย่าทิ้งพระธรรม พระคัมภีร์ อย่าทิ้งบทเรียนของชีวิตที่มันมีขึ้นมาแล้ว อย่าเห็นว่ามันแย่แล้วไม่เอา แต่ให้ดึงเข้ามาเป็นมุมดี ๆ ที่จะทำให้เราเติบโตแข็งแรงต่อไป” 

 

พี่โชคดี พี่ขอบคุณพระเจ้า ขอบคุณคุณแม่ ขอบคุณนันทิดา ขอบคุณที่ฉันมีลูกคนเดียวซึ่งมันก็ดีค่ะ เพราะพี่ได้มีเวลาดูแลลูกเต็มที่ ได้โอบกอดเขาเต็มที่ ที่บอกนะคะว่าทำไมเราถึงให้เขาไปวิปัสสนาตั้งแต่เด็ก ๆ เรียนโรงเรียนอินเตอร์ ลูกต้องไม่ทิ้งธรรมะนะลูก เป็นเมล็ดข้าวต่อไป ๆ แม่ไม่ได้สอนลูกนะว่าให้เขาเข้าวัดเข้าวา แต่เราทำให้เขาเห็น ให้เขาได้ไปสัมผัสการนั่งสมาธิ เขาจะรู้หรือไม่รู้ พี่ก็ไม่รู้ แต่สิ่งที่เขาจำได้ คือเขาเคยได้ทำ และเขาเอาสิ่งนั้นเข้ามาใช้เป็นสมาธิในการเรียน 

 

ที่บ่นว่าเรียนบัลล่งบัลเล่นั่นก็คือสมาธิ การเอาชนะตัวเองต้องเจ็บปวด “ I ไม่ชอบ ไม่อยากเป็นนักบัลเล่ที่เก่งที่สุด ไม่อยากเป็น ทำไม ให้เรียนทำไม” เราก็บอกไม่รู้สิ แต่เขาบอกว่า “ok ขอดูก่อนนะ I กำลังจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย มันแย่มากเลยนะแม่ที่จะต้องเอาหัวสมองไปคิดไปด้วยระหว่างที่ต้องเอาเท้าแช่ถังน้ำแข็ง” เขาก็ทดสอบตัวเขาเองหลายครั้งก่อนที่เขาจะเลิกล้มอันนั้น 

 

เขาพยามถึง 6 เดือน จนเขาบอกว่า “ไม่ไหวจริง ๆ แม่ นั่นคือสิ่งที่มันไม่ได้มาจากอารมณ์ แต่มันมาจากสิ่งที่ลูกไม่ได้อยากที่จะเป็น” จากตรงนั้นเขาเรียนจนจะต้องไป solo แล้วค่ะ มัน advance แล้วลูก แต่เขาก็พยายามค่ะ เราก็เคารพในการตัดสินใจของลูก เพราะเขากลั่นกรองมาดีแล้ว ไม่ใช่อารมณ์ที่แบบว่าเจ็บเท้ามาก ไม่ไปแล้ว พอแล้ว ไม่ใช่

 

 

Host: เขาไม่ทำตามใจ

 

คุณแม่ตู่: ใช่ค่ะ

 

 

Host: แล้วในความรู้สึกของพี่ตู่ถ้าหากว่าวันหนึ่งลูกต้องไปก่อน พี่จะอยู่ยังไง จะทำยังไง

 

คุณแม่ตู่: ไม่ได้ แค่แวบเข้ามาในหัวก็ไม่ได้แล้ว คือเวลาที่ลูกเจ็บป่วยอะไร เพลงเขาจะน่ารักมาก เขารู้ว่าแม่ต้องทำงานหนัก เขาจะไม่กวน เขาก็จะอยู่ได้ด้วยตัวเขาเอง ซึ่งเขาก็เป็นแบบแม่เหมือนกัน ถ้าเกิดอะไรขึ้นรับไม่ได้แน่นอน เป็นห่วง ขนาดแค่ลูกเป็นแค่ตรงนี้แล้วเขาไปป่วยที่อังกฤษ เราก็บอกให้เขาไปกายภาพเพราะแม่ไปเยี่ยมลูก แม่ก็ไปกายภาพเพราะแม่ก็ป่วยไม่สบายเหมือนกัน เขาก็ไป แต่เขาบอกว่าโรงพยาบาลที่นี่เข้ายากมาก แต่เราบอกว่าป่วยแค่ไหนก็ต้องไป เขาแค่จะงอขาวิ่งขึ้นรถโรงเรียนแต่ขามันก้าวไม่ได้ ถึงได้รู้ว่าตัวเองเป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทแต่ว่าเป็นแค่ที่เจลของหมอนรองกระดูกค่ะ

 

ลูกเป็นอะไรนิด ๆ หน่อย ๆ พี่ก็ไม่ยอมอะ เหมือนกับตอนที่คุณพ่อพี่นั่นแหละ พี่พยายามทำทุกอย่างค่ะ พี่เข้มงวดกับลูกด้วยซ้ำจนเขาก็ยอมค่ะกับเรื่องนี้ เช่น ยาตัวนั้นอย่านั่นนี่นะ อย่าทานยาเยอะ แต่เขาน่ารักค่ะ เวลาป่วยเขาจะพยายามไม่ทานยาเยอะ เขาจะ heal ด้วยสมาธิเขาเอง พยายามหาวิธี โทรถึงอาจารย์หมอทุกคน รักษาแพทย์ทางเลือกไหมคะ ยอมเสีย 5 แสนที่ฉีดโปรตีนเข้าไปเพื่อให้ร่างกายมันสร้างภูมิต้านทานเข้ามา 

 

เขาบอกว่าเป็น SLE (Systemic Lupus Erythematosus โรคแพ้ภูมิตัวเอง) หรือแม่ คือมันบ่งบอกที่จะไปทางนั้น แต่ว่าก็ต้องรอดู ถ้าเกิดเขาสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้แล้วไปเรียน ถ้าเขามีสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป ชีวิตเขาไม่ต้อง handle อะไรมากก็อาจจะดีขึ้นหรือเปล่า ท้ายที่สุดก็ขอบคุณพระเจ้า พี่คุกเข่าอธิษฐานว่า ลูกเชื่อในพระองค์ ลูกเชื่อเขาทำดีมาตลอด เขาอดทน เพราะฉะนั้นเขาต้องได้รับรางวัลใช่ไหม เขาต้องไม่เป็น หรือถ้าเขาเป็นแล้วจะต้องทำยังไง เราก็ไม่อยากให้ลูกป่วยเป็นอะไรเลยเพราะเราเคยป่วย เราเป็นเยอะ ไม่อยากให้ลูกเป็นแบบนี้...

 

ปรากฏว่า...ขอบคุณพระเจ้าค่ะ พอเขาไปอังกฤษก็ happy life in her love เขาก็ support ซึ่งกันและกันค่ะ เราเป็นแม่ เราก็มีความรักให้เขาในมุม ๆ หนึ่ง แต่ในอีกมุมหนึ่ง เขาก็ต้องมีความรักในวัยของเขา it blooming her ในวัยหนึ่งเราก็เคยเป็นแบบนั้น เรายังอยากลุกขึ้นมาสวยเพื่อ someone เข้าใจใช่ไหม อืมไม่ใช่ว่าเขาไม่รักเรา

 

 

Host: She so happy เห็นได้จากทุก ๆ อย่างที่เป็น

 

คุณแม่ตู่: แล้วเธอก็หายจากอาการนั้น ทั้ง ๆ ที่ก็เรียนหนัก นี่ไงเหมือนพ่อพี่ที่หายโดยไม่ต้องไปฉีดยาเพราะดีใจ ปิติที่ลูกได้รางวัลชนะเลิศที่ฮ่องกง มัน WOW! มาก ๆ พ่อไม่ได้ใฝ่ฝันว่าจะให้ลูกมาเป็นนักร้อง แค่ต้องการให้ลูกใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ แต่เมื่อเป็นแล้วด้วยอะไรก็ตาม ได้รางวัลแล้ว ก็ต้องทำหน้าที่ไปประกวด แล้วก็ยังได้รางวัลมาอีกที่ฮ่องกง

 

ชีวิต พี่เชื่อนะคะว่าทุกอย่างค่ะ ไม่ต้องไปเสียดายกับสิ่งที่ผ่านมา ที่เราไม่ได้ทำในสิ่งที่เราฝัน บางทีสิ่งที่เราไม่ได้ทำในความฝัน เราอาจจะได้ทำในวันนี้ก็ได้ อย่างที่พี่บอกในวัยอายุ 60 วันนี้ ที่เคยฟุ้งเฟ้อแต่ก็ขอให้เรามีความมุ่งมั่นในจุดที่เราอยู่ตรงนั้นนะคะ ทุกวันนี้อธิษฐานจิตทุกวัน มีคน 50 รายชื่ออยู่ในคำอธิษฐานนะคะ ไม่เคยขาดตกพกบร่องนะคะ... ขอบคุณที่ให้มีลมหายใจ พวกเราใน universe นี้เราใช้ลมหายใจเดียวกัน we are interbeing ทำไมเราไม่เคยเจอกันแต่ยังรักกันอยู่เลย ใช้ลมหายใจเดียวกัน ใช้สิ่งนี้ส่งถึงกัน มันเป็นสิ่งที่มีพลัง เป็น universal พระเจ้าบอกเราแบบนี้ เราใช้พลังนี้ส่งหากัน เช่นเดียวกับทุกอย่าง บทเรียนในชีวิตสอนเรามา ในอายุ 60 สำหรับพี่ พี่กำไรแล้วค่ะ จากที่เหลือนี้ไปเรายังคงต้องทำงานหนัก

 

จากนี้ไปอายุ 65 ก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่า I จะทำอะไร ที่เคยพูดว่ายังไม่มีเลยนะ Youtube channel เพจ (Facebook fanpage) คืออะไรหรือ IG เพิ่งจะมามีเมื่อไม่นานนี้เอง เล่นเอง ตัดต่อตอนทำงานกับพี่ฉอดแล้วลง IG story ทำงานกับพี่ฉอดนะแต่ไม่มีรูปพี่ฉอดเลย มีแต่ฉันพูดว่า ทำยังไงอะให้มันขยายใหญ่ ๆ ทำไม่เป็น (หัวเราะ) แต่พอลงไปแล้วคนดูตั้ง 500 - 600 views อะ ๆ ลบลงใหม่ แต่ก็เสียดาย views ก็ถ่ายใหม่ทำยังไงให้เห็นพี่ฉอด ไม่ได้อีกแล้ว อ้าวไม่เห็นอ้อยอีก ทำยังไงอะ ทำยังไง เพราะเราเขียนแคปชันว่าทำงานกับพี่ฉอดกับอ้อยไง (หัวเราะ) ทำไม่เป็นอะ 

 

ก็นี่แหละค่ะคิดว่าช่วง 60 ไปก็คงมีอะไรที่ challenge ตัวเองนะคะ หมายถึงว่าเราจะท้าทายกับตัวเอง พี่ไม่แน่ใจว่าหลังจากนี้แล้วพี่จะยอมให้ my gray hair show up ไหมนะ มันเป็นความท้าทายนะคะ เพราะปกติแล้ว นันทิดา แก้วบัวสาย จะต้องพร้อมให้คนเห็นแบบ completed เราตกลงกับช่างผมที่ดูแลเรา 15 ปีที่เขาอยู่กับเรานะคะ เขาบอกว่าไว้ตรงนี้ให้ได้นะจะทำสีสวย ๆ แบบทึม ๆ ม่วงเข้ม สีกะปิ แล้วสีขาวผม gray hair มันจะไปกับสีพวกนี้ มันเป็นอะไรที่แบบ Wow!

 

 

Host: นี่พี่คิดไว้หมดแล้วนะ

 

คุณแม่ตู่: พี่คิดไว้หมดแล้วค่ะ 65 จะยังไง 70 จะยังไง พี่มีรูปภาพของผู้หญิงคนนั้นแล้ว ผู้หญิงคนนั้นชื่อแมเรีย เป็นนางแบบ เขาปล่อยให้หน้าเขามีริ้วรอยตั้งแต่อายุ 40 เขาปล่อยให้ผมเป็นสี gray hair แล้วเขาทำสีผมแล้วสนุกกับการทำสีผม เป็นผู้หญิงที่สง่างามมากกับสีผมของเขา ไม่ได้ปล่อยให้ผมขาวไป แต่ใส่ทุกอย่างลงไปมันมีความซนอะ เรามีความรู้สึกว่า You เป็นผู้หญิงที่คลาสสิค เท่อะ คำว่าคลาสสิคมันดูแพง ดูวัยรุ่น (หัวเราะ) ใช่ไหมคะ

 

 

Host: นันทิดา ยังมีความซนอยู่เลยนะเนี่ยเอาจริง ๆ

 

คุณแม่ตู่: ไม่รู้ (หัวเราะ) กล้ามาซนกับพี่ไหมละ ถ้ากล้ามาซนกับพี่ พี่จะได้รู้ว่าพี่ยังทำอะไรได้อีกบ้าง ที่พี่มีอยู่ในหัวเนี่ยบางทียังมีกองไว้เต็มเลยค่ะ ความฝันของผู้หญิงคนนี้นะคะ พี่เป็นคนที่คุยกับตัวเองนะคะ อย่างที่บอกค่ะ เดี๋ยวนี้คุยกับตัวเองแล้วตอบเองด้วย (หัวเราะ) นี่น่ากลัวมากเลยนะคะ คุยเองแล้วตอบเองด้วยว่ายังไงเนี่ย ตอบมาเป็นเสียงนะ เมื่อก่อนยังออกมาในจิตนะ “ยังไงเนี่ย พอได้แล้ว เดี๋ยวหน้าเหี่ยวนะ ไม่นะ ๆ ดูต่ออีกนิดนึงนะ” (หัวเราะ) อะไรอย่างนี้ พออายุ 60 นะ กินน้ำน้อย นอนน้อยนี่หน้ามันเปลี่ยนเลยนะ นอนดึกคืนสองคืนแล้วแบบทำไมหน้ามันกรอบอย่างนี้ เป็นอะไร ไม่ได้

 

 

Host: น้องเพลงเวลาเขากลับมาบ้าน เขาคงคิดเหมือนหนูนะ แม่เป็นอะไรทำไมแม่พูดคนเดียว (หัวเราะ) แม่ก็คงตอบว่าพูดคนเดียวก็ดีแล้วไง ดีกว่าพูดกับผี (หัวเราะ)

 

คุณแม่ตู่: (หัวเราะ) ใช่ ๆ หรือจะเอาแบบนั้นล่ะ แม่พูดกับตัวเองลูก แล้วก็นั่งขำ มันก็ไม่เดือดร้อนใคร ไม่ปรึกษาใคร ปรึกษาแม่ก็ไม่ได้ ตอนนี้ช่วงนี้งอนกันอยู่ งอนฉันมากเลย แต่จริง ๆ รักกันมาก

 

 

Host: แต่จริง ๆ รักกันจะตาย อาจจะมีบ้างบางทีที่เขาอยากให้เราสนใจบ้าง

 

คุณแม่ตู่: ก็อย่างตอนนี้ดูพี่กับเพลงก็เป็นกันอย่างนี้บางที จริง ๆ เพลงเขาก็รักเรามาก แต่วันนั้นรู้เลย วันที่ยืนอยู่ปลายเตียง เราคิดแบบว่าทั้ง ๆ ที่ I เป็นแม่เขานะ แต่ทำไม I ยังไม่รู้เลยว่า ลูกไม่มาโรงพยาบาล ป่วยทีไรไม่เคยมา ตั้งแต่พี่ป่วย ตั้งแต่เขาเด็ก ๆ เลยนะ เออก็ดีแล้วลูก โรงพยาบาลคือที่ที่ไม่ควรมา ตั้งแต่นั้นมานะ ผู้หญิงคนนี้นะ ยาโยนทิ้ง ฉันดีลได้ ดีลได้จนเดินไปหาหมอบอกว่าตอนนี้ฉันเป็น depress แต่ได้อีกโรคหนึ่งมา 

 

หมอคะการที่เราเจ็บปวดก้านคอ ปวดไมเกรนแล้วเราไม่กินยาเพราะกลัวไตพังค่ะ กินยาแก้ปวด กินยาอาค็อกเซียซึ่งต้องกินคู่กับซาแนคเพื่อไม่ให้กล้ามเนื้อเกร็ง จะขึ้นเวที ทำไมเกร็ง เพราะเราใส่ส้นสูง ไม่ได้ เดี๋ยวแน่นหน้าอกหายใจไม่ออก ทุกคนในทีมงานจะรู้ว่า อาค็อกเซีย 120 มิลลิกรัมกับยาซาแนคครึ่งมิลลิกรัมแล้วกล้ามเนื้อจะคลาย แล้วค่อยพาฉันไปโรงพยาบาล ทุกคนจะรู้เลย สั่งเสียไว้หมดเลย แดนซ์เซอร์จะรู้หยิบเข้าปากหม่ามี้เลย แล้วก็ค่อย ๆ หายใจแผ่ว ๆ สิ่งที่เป็นปัญหาของพี่คือกล้ามเนื้อ

 

 

Host: มันจะหายไหมคะ

 

คุณแม่ตู่: ไม่หายค่ะ สำหรับพี่นะคะ เพราะอันนี้พี่ใส่เหล็กไว้ที่ก้านคอข้อที่ 5 กับ 6 เมื่อก่อนแหงนหน้าไม่ได้ ก้มหน้าไม่ได้ เข้าร้านทำผมไม่ได้ 2 ปี นอนเตียงสระผมไม่ได้ ต้องสระผมไปจากที่บ้าน นั่งอาบน้ำเป็นเวลา 1 ปี มีอยู่ครั้งนึงพี่ล้มค่ะหลังจากผ่าตัด ปังเดียวก็คือขึ้นรถพยาบาลไปเลย สิ่งที่ดีคือโชคดีที่มันไม่เป็นอะไร ข่าวดีคือเหล็กกับกระดูกเชื่อมเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว แต่แรก ๆ เวลาที่พี่ร้องเพลงมันจะรู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรดัน ๆ ขึ้นมา แล้วมันทำให้เสียงไม่เหมือนเดิม หมอบอกว่า บอกก่อนถ้าผ่าตัดแล้วเสียงจะกลับมาไม่เหมือนเดิม มันจะเป็นยังไงหรือเราก็ตกใจ แต่มันไม่ใช่เป็นกับทุกคนครับ ผมแค่บอกก่อน

 

คำแรกที่พี่ลืมตามมาในห้อง ICU พี่ร้องว่า “ซันนี่นนนนนนนนนนนนนนนน” (เสียงสูงลากยาว) ซันนี่ คือซันนี่ยูโฟร์นะ เพราะเคยเล่นละครเวทีด้วยกัน วันนั้นห้อง ICU เป็นห้องที่น่ากลัวมากสำหรับพี่ พี่ไม่ได้กลัวห้องผ่าตัด พี่มองไฟทุกดวงในห้องผ่าตัดแล้วรู้สึกว่าเหมือนไฟสปอตไลท์คอนเสิร์ต สวยจังเลย หมอเขากำลังเตรียมเครื่องมืออยู่ ไม่กล้วเลยสักนิด ผ่าตัดไม่มีใครอยู่กับพี่ มีลูกมาส่ง หลับตาสวยงามแล้วก็จำไม่ได้ พอตื่นขึ้นมาปุ๊ปก็รู้ว่าเห็นหน้าซันนี่ ก็บอกว่าจะไปเล่นละครแล้วนะ เดี๋ยวจะมาบอกว่าคืนนี้เล่นเป็นยังไง เพราะเราไม่ได้เล่นแล้วไง 

 

เราก็บอกเทียบคีย์ก่อนสิ เราก็ร้อง “ซันนี่นนนนนนนนนนนนนนนน” แล้วก็หลับต่อ แต่หลังจากนั้นมา เราก็รู้ว่าเสียงเราไม่เหมือนเดิมแล้วค่ะ ทุกวันนี้กว่าจะยอมรับตัวเองได้ พอมีเหล็กมันเหมือนเกิดพังผืดขึ้นมาไปดึงยึดกล้ามเนื้อ เวลาที่ร้องเพลงปุ๊ป ไมเกรนมันจะมา เพราะมันเกิดการเกร็ง เขาถึงบอกว่าร้องเพลงต้องรีแลกซ์ร่างกายทุกส่วน เราก็เลยรีแลกซ์ร่างกายทุกส่วน 

 

ช่วงแรก ๆ พอร้องเพลงแล้วตกใจมาก ที่ร้องว่า “เขียนเอาไว้...” เราร้องออกมากลายเป็นเสียงสูงมาก “เขี๊ยน” ทุกคนตกใจหมดเลย เสียงนี้มาจากไหน ทำไม่ได้เสียงนั้น แต่มันมาให้เราได้ยินแบบนั้น 2 ครั้งแล้วก็ไม่มาอีก หลังจากนั้นพี่ก็ทำใจกับตัวเองนะคะว่า ไม่เป็นไรหรอกถ้าร้องเพลงให้เพราะ แต่โน๊ตมันไปไม่ถึงตัวนั้น เราก็ยังสามารถร้องด้วยความรู้สึก ด้วยหัวใจเราได้ sing from soul and mind ร้องเพลงตัวโน๊ตสูง ๆ แต่ถ้าไม่ร้องจากจิตใจก็เท่านั้นแหละ 

 

แต่มันก็มีเสียใจกับตัวเองที่เสียงไม่เหมือนเดิม ไม่มีความพลิ้ว แต่สายเสียงสามารถบริหารได้ค่ะ ไม่มีหย่อน มันจะเหมือนกล้ามเนื้อ เมื่อเราไปบริหารมันจะแข็งแรง มันจะได้ค่ะ นอกจากจะมีอะไรบางอย่างที่แบบนี้ เพราะตอนผ่าตัดมันต้องผ่านเส้นเลือดใหญ่มาทางด้านขวาเข้ามา

 

ตอนนี้ก็เป็นเนื้องอก ไทรอยด์ ก็เฉย ๆ กับมัน เพราะมันอยู่ใกล้เส้นเสียงมาก 2 ข้างเท่ากัน พี่ก็บอกเจาะดู ยาชาก็ยังไม่ทำงานเท่าไหร่นะ ก็ยังเจ็บอยู่เลย เจาะมาไม่ได้ก้อนเนื้อด้วย ได้แต่เลือด ทุกวันนี้เพลงบอกว่าแม่ต้องสัญญานะ You ต้อง follow up  ทุก ๆ 6 เดือน Mom, promise me นะ... อืม จบเรื่องหนึ่งก็มาอีกเรื่องหนึ่ง พี่ก็แบบ challenge กับตัวเองนะคะ พี่ไม่ได้กลัวกับเรื่องพวกนี้

 

 

Host: จริง ๆ มันก็สะท้อนให้เห็นนะว่าพี่เป็นห่วงแม่พี่ยังไง เพลงเขาก็เป็นห่วงพี่อย่างนั้นเหมือนกัน ดูเขาเป็นห่วงพี่มากนะในเรื่องสุขภาพเนี่ย

 

คุณแม่ตู่: I แรงกับแม่ทุกวัน เพราะกลัวเขาล้ม ยิ่ง I กด ยิ่งเถียงนะ ยิ่งบังคับเขาเท่าไหร่ด้วยอารมณ์แบบนี้นะ แม่แบบยิ่งต่อต้านเรา เหมือนกันกับที่เพลงเป็นกับพี่เลย เพราะแม่พี่ไม่เคยป่วยเขาเพิ่งมาเป็นตอนนี้ แม่พี่เป็นผู้หญิงอายุ 86 แล้ว เพิ่งจะมาผ่าตัด bypass ศิริราชบอก ตับ ไต ม้าม ปอด แข็งแรงสุด ๆ ผ่าตัดได้เลยครับ ตอนนี้อายุ 92 แล้วยังอยู่ดูแลหลาน วันนี้ก็แต่งตัวสวยออกไปทานข้าวกับพี่ชายเพราะเขาอยู่บ้านคนเดียว ถ้าเขาอยู่บ้านค่าน้ำบ้านพี่ขึ้น เพราะเขาเป็นคนสวน เขาชอบรดน้ำต้นไม้ รดทุกใบ เปิดเพลงให้ต้นไม้ฟัง เขามีความสุข แล้วเขาก็ลากสายยางรดน้ำต้นไม้ แค่นี้ก็ปวดแล้ว เพลงเขาก็ไม่อยากให้ยายทำ กลัวยายจะหกล้ม เพราะยายยังแข็งแรง หัวใจกับเบาหวานเขาควบคุมดูแลได้ดีมาก

 

 

Host: เขาแข็งแรงเนอะ ดูจากใน IG ที่เขากระโดดน้ำกับน้องเพลง

 

คุณแม่ตู่: ใช่ ดูสิพี่ยังไม่กล้ากระโดดเลย พี่ชายกดมาเห็นใน IG ของน้องเพลง เขาบอกเป็นข้อ ๆ เลยนะ 1.อย่าให้แม่ทำแบบนี้อีกนะตู่ 2.ต้องดูแลแม่ให้ดี ๆ 3.กระดูกหักไปจะทำยังไง 4.บอกแม่ด้วย 5.พี่โกรธ  โอ้โหข้อที่ 5 นี่โกรธมากเลย เพราะว่าแม่เป็นคนที่แข็งแรงไง แม่ไม่เคยป่วย แม่ยังไม่เข้าใจเลยว่าที่ตัวเองเป็นเบาหวานคืออะไร เออนี่ แม่กินน้ำเฮลซ์บลูบอย ของในตู้เย็นนี่น่ากลัวมาก เวลาออกไปซุปเปอร์มาร์เกตนะ น้ำหวานเฮลซ์บลูบอยเขียวแดงต้องครบ ลูกตาลเชื่อม สลิ่ม ลอดช่อง แต่ถามว่าแม่ทานนมเบาหวานยังจ๊ะ อื้ม ๆ เดี๋ยวทาน ๆ พอเผลอมาคุณแม่ทานอะไร? ฮ็อตช็อกโกแลต นี่ทีเจก็กินเหมือนกัน ฉันก็บอกโอเค หัวใจทั้งคู่คงจะได้ไปพร้อมกันทั้งคู่หรอกนะ แทนที่จะปลอบใจฉันก็ประชดแม่อีก แต่ก็รักไง ก็ไปคุกเข่ากับพระบิดาเจ้าอีก

 

 

Host: ก็บอกเขาดี ๆ ไง

 

คุณแม่ตู่: บอก แป๊ปเดียวเขาก็ลืมแล้ว เราก็เลยโทรไปบอกเพื่อน เพื่อนก็บอกว่า "แม่เขาจำได้เท่านี้ แกก็ต้องเข้าใจ" "แล้วไง" "เธอต้องพูดแบบนี้ทุกวัน" "ฉัน! ฉันเนี่ยนะต้องพูดแบบนี้ทุกวัน"

ก็ต้องบอกเลยว่า "ชีวิตความเป็นนันทิดาที่ทุกคนรู้จักมาเป็นนักร้องเนี่ย พี่รู้สึกว่า พี่โชคดีนะที่พี่ได้เป็นทั้งลูก แล้วก็โชคดีที่มีใครคนหนึ่งเรียกเราว่าแม่ โชคดีสำหรับความเป็นนันทิดาตรงนี้"

 

 

 

 

 

 

ผู้ดำเนินรายการ:  คุณแม่ตู่ นันทิดา แก้วบัวสาย / สุรางคณา สุนทรพนาเวศ

บรรณาธิการ:  นันทิญา จิตตโสภาวดี

กองบรรณาธิการ: นมิดา แพ่งสภา, ปัณณธร ใสแสง, รุจา สุขพัฒน์, นีรชา คัมภิรานนท์, สุสมา สุขพัฒน์

ศิลปกรรม:  ฐานิสร์  ริ้วสุวรรณ, เอกชัย เธียรสรรชัย
นักออกแบบเสียง:  ธัญธนวรัท  ชนกชัด

ฝ่ายผลิต: ชลธิศ กรดี

ที่ปรึกษา:  วันชัย  บุญประชา, ดร.สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน

สนับสนุนโดย  สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

 

 

 

OTHER