ส่งต่อรักแบบแม่ EP.03 คุณแม่แพม (นวลนง จามิกรณ์)

09 ตุลาคม 2020 58 ครั้ง

ส่งต่อรักแบบแม่ EP.03 คุณแม่แพม (นวลนง จามิกรณ์)

"แม่เองบอกว่าลูกคือผู้มีพระคุณของแม่ หลายคนบอกว่าพูดอย่างนั้นได้ยังไง เรานี่แหละจะต้องเป็นผู้มีพระคุณของลูก แต่สำหรับแม่ แม่ยกให้ลูกเลยจริง ๆ เพราะว่าถ้าไม่มีลูก ชีวิตแม่ก็คงไม่ได้ยืนอยู่เต็มภาคภูมิได้ในทุกวันนี้ เพราะลูกเท่ากับเป็นแรงขับเคลื่อนให้แม่ได้ทำอะไรทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตได้" ติดตามเรื่องราวของ "แม่แพม นวลนง จามิกรณ์" (คุณแม่ของแพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์) แม่ผู้ทุ่มเทให้ลูกทุกวินาที ได้ใน ส่งต่อรักแบบแม่ EP.03 คุณแม่แพม (นวลนง จามิกรณ์)

 

Host: อยากให้แม่บอกวิธีการ เพราะว่าในสังคมตอนนี้มีทั้งแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่ที่ต้องเลี้ยงลูกหลาย ๆ คนด้วยตัวคนเดียว หรือแม่ที่เจออะไรหนัก ๆ แม่มีกำลังใจอะไรที่ทำให้แม่ฝ่าฟันเพื่อลูกสาวคนนี้บ้างคะ

 

คุณแม่แพม: คนมักจะมองว่าเรามีความพร้อมในชีวิตมาก เลยคิดว่าอย่างเธอจะไปเดือดร้อนอะไร มีทุกอย่างเธอก็สบายสิ แต่บอกได้เลยว่าชีวิตของแม่ก็ไม่ได้เดินมาโรยด้วยกลีบกุหลาบ ไม่ได้เป็นครอบครัวที่ร่ำรวย เป็นครอบครัวข้าราชการปกติ เพราะฉะนั้น เราก็ต้องสู้เพื่อที่จะให้มีการศึกษา มีครอบครัวที่ดี มีลูกที่ดี ลูกก็ต้องมีครอบครัวที่ดีต่อไป เพราะฉะนั้น แม่เองถึงมีความตั้งใจสูงสุดในชีวิตว่า เมื่อเรามีครอบครัวของเรา เราจะต้องสร้างครอบครัวของเราและครอบครัวของลูกเรา ให้เขาไปในจุดที่ดีให้ได้ 

 

คืออย่างไรก็ตามแม่ต้องแข็งแรง แม่เนี่ยนะตายไม่ได้ ป่วยไม่ได้เลยจริง ๆ ตอนนี้ลูกกำลังทำงาน ลูกกำลังเรียน ลูกกำลังทำอะไรมากมาย ถ้าแม่อ่อนแอไปสักคนเนี่ย ลูกก็จะจิตใจวอกแวกทันที เพราะฉะนั้นความแข็งแกร่ง ความแข็งแรงทั้งหลายของแม่เนี่ย มันสำคัญมาก ๆ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานการณ์เช่นไร ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวที่มีพร้อมพ่อแม่อยู่ด้วยกัน หรือไม่อยู่ด้วยกัน จะมีลูกที่ขอเขามาเลี้ยง หรือจะมีลูกหลายคนอะไรก็ตาม สำคัญที่สุดก็คือความมุ่งมั่นที่เราจะให้ลูกของเราดีให้ได้ เป็นคนดีให้ได้ มีอาชีพที่ดีให้ได้ ทั้ง ๆ ที่มองไม่เห็นทางหรอกนะตอนที่เราสร้าง เรายังไม่รู้เลยว่า ลูกเราจะเป็นอะไรในอนาคต แต่เมื่อเราเลี้ยงเขามา ยังไงก็ตามขอให้ลูกจิตใจแข็งแกร่ง

 

ตอนนั้นเราก็บอกลูกนะว่าขอให้ลูกจิตใจแข็งแกร่งเหมือนแม่นะ คือเราเอาตัวเองเป็นหลัก ซึ่งแม่คิดว่าแม่เป็นคนที่เข้มแข็งพอที่จะเป็นแบบอย่างให้ลูกได้ เราบอกว่าเราต้องอดทน ต้องขยัน แต่พอเวลาเรามีลูก ลูกไม่ได้จะขยันตามที่เราคิดนะ เพราะเราดูแลลูกทุกอย่าง อันนั้นก็เป็นอีกทางหนึ่งที่เราต้องค่อย ๆ ปรับ ต้องแก้ไข แต่ที่แน่ ๆ คือ เรารู้ว่าเขาปรับเปลี่ยนได้ เราไม่ได้ถึงขนาดว่ากู่ไม่กลับแล้ว การที่เราหล่อหลอมเขาเป็นคนดีได้เนี่ยหมายความว่าสิ่งต่าง ๆ มันก็จะกลับมา แม้ว่าเราจะเป๋ออกนอกทางไปบ้าง เราก็จะกลับมารวมกันได้เป็นหนึ่งเดียว

 

เพราะฉะนั้น ทุกครอบครัวไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม ขอให้นึกเลยว่าลูกคือชีวิตของเราเลยจริง ๆ แม่เองเนี่ยนะบอกเลยว่า ลูกคือผู้มีพระคุณของแม่ หลายคนยังบอกเลยว่าพูดอย่างนั้นได้ยังไง แต่สำหรับแม่ แม่ยกให้ลูกเลยจริง ๆ เพราะชีวิตแม่ ถ้าไม่มีลูก คงไม่ได้ยืนอยู่อย่างเต็มภาคภูมิได้ในทุกวันนี้ ลูกเป็นเหมือนแรงขับเคลื่อนให้แม่ได้ทำทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตได้ 

 

เวลาจะล้ม นึกถึงลูก ล้มไม่ได้ เวลานี้อยากจะนอนร้องไห้เหลือเกิน ทำไม่ได้ ถ้าทำอย่างนั้นใครจะเอาอะไรให้ลูกกิน ต้องยิ้ม ยิ้มเท่านั้นที่จะสยบทุกอย่างได้โดยเฉพาะลูก (หัวเราะ) มันเป็นอะไรที่ลูกก็อยู่มาด้วยรอยยิ้มของเราเหมือนกันเนอะ เพราะฉะนั้นแม่ก็ต้องฝากไว้ว่าทุกครอบครัวจริง ๆ ทำให้มันคลี่คลายสถานการณ์ทุกอย่างได้นะ บางทีเราทะเลาะกันเนี่ย แต่พอหลุดยิ้ม หัวเราะขึ้นมา ทุกอย่างก็จบ ก็เปลี่ยน 

 

เพราะฉะนั้นให้นึกถึงว่า เด็กที่ไม่รู้อะไรเลยเนี่ย เขาจะเป็นอะไรก็อยู่ที่ว่าเราเป็น แม่เคยได้ยินสิ่งนี้จากอาจารย์ที่โรงเรียนลูกพูดว่า “ก็คุณเป็นนักดนตรี แล้วพอลูกชอบเล่นดนตรี คุณไปว่าลูกให้ลูกเลิกเล่นดนตรีไม่ได้ เพราะว่าลูกซึมซับสิ่งที่พ่อแม่เป็น สิ่งที่เขาเห็นโดยไม่รู้ตัว”

 

การมีลูกเรียกว่าเป็นสวรรค์ของเราดีกว่านะ แต่บางทีสภาพเศรษฐกิจของครอบครัวก็อาจทำให้ตึงครียด ตัวแม่เองก็มีความตึงเครียดมาก ๆ แต่เราต้องก้าวข้ามผ่านทุกความทุกข์ของเราให้ได้ เราจึงจะสร้างชีวิตน้อย ๆ ของเราให้เขามีความสุขและประสบความสำเร็จได้

 

 

Host: อะไรคือความภูมิใจที่สุดในความเป็นแม่คะ

 

คุณแม่แพม: ก็อย่างที่แม่บอกว่า ตอนนี้สิ่งที่แม่ภูมิใจจะขอยกตัวอย่างนะ พ่อเขาบอกว่านี่พวกเธอทำอะไรกัน ซึ่งแม่สามารถทำให้ลูก 3 คนไปสวดมนต์กันได้พร้อม ๆ กัน ทั้งที่มันไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ แม่ทำตั้งแต่จ้าง คือแม่คิดว่าจะทำยังไงดีให้ทุกคนได้เริ่ม จะมายังไงก็ได้ จะไม่สวดก็ไม่ว่า แต่ขอให้มา แค่ได้ยินเสียง นี่คือสิ่งที่แม่บอกลูกว่า สำคัญที่สุดในความตั้งใจของแม่นะ 

 

อะไร ๆ ก็ทำมาหมดแล้ว ตอนนี้หล่อหลอมให้เขามีอะไรยึดมั่นจิตใจให้เหนียวแน่นมากขึ้น แล้วแม่คิดว่าไปได้ดี มันเป็นความชุ่มฉ่ำหัวใจของแม่จริง ๆ นะ คือแพนเนี่ยไม่ยาก น้องคนเล็กนี่ยากมากแต่เขาทำได้ เขาเริ่มจากการขับรถไปส่งแม่ แค่ขับรถส่งแม่ลง เขาก็นอนรอในรถ แต่เสียงสวดมนต์เข้าไปทุกครั้ง ๆ จนวันหนึ่งเขาก็ลงมาเอง ก็จะมาลงแค่ 5 นาที 10 นาที แรก ๆ แพนก็จะแค่สวดมนต์ไม่นั่งสมาธิ สวดมนต์เสร็จก็ไปเลย แต่หลังเขาก็จะรู้เลยว่านั่งสมาธิสักนิดนึง 5 นาที เท่านั้นเอง แล้วหลัง ๆ ลูกก็ไปขยับของลูกเอง 

 

นี่นะคะมันเป็นความสุขของแม่มากยิ่งกว่าอะไร เรารู้ว่าท้ายที่สุดของชีวิตเนี่ย พอลูกเป็นแบบนี้ เรารู้สึกภูมิใจในชีวิตในตัวลูกมาก ๆ คงไม่มีเรื่องอะไรที่จะดีไปกว่าที่ลูกมีอะไรยึดเหนี่ยวจิตใจธรรมะพระพุทธองค์คือที่สุดของชีวิตของชาวพุทธแล้ว เรื่องอื่นใดก็เป็นไปตามที่ครอบครัวปลูกฝังกันไป แต่ในชาวพุทธสิ่งพวกนี้ต้องมี เพราะฉะนั้นแม่หมายมั่นมาก ๆ ว่า สิ่งตรงนี้จะต้องอยู่คู่กันไปกับเขา

 

 

Host: ถ้าสมมุตินะคะว่าแม่ขอพรจากพระพุทธเจ้าได้ 1 ข้อ ให้ท่านประทานพรให้ลูกแม่ แม่จะขออะไรให้ลูกทั้ง 3 คน

 

คุณแม่แพม: แม่ก็กราบขอพระองค์ท่านนะคะว่าให้ลูกได้อยู่ใกล้ ๆ เรา และเราได้อยู่ใกล้ ๆ เขาตลอดไป ให้เราได้แนะนำ สอนสั่ง หรือสวดมนต์ด้วยกัน กราบขอบารมีท่านหนุนนำให้เราได้มีทางสว่างเสมอ เพราะเรามีธรรมะอยู่ในจิตใจของทุกคนแล้วเนี่ย ก็ให้พระองค์ท่านชี้นำลูก ๆ ทุกคนไปในทางที่ดี แล้วก็เป็นประโยชน์กับแผ่นดินของเราตราบนานเท่านาน ทรัพย์สินหาเมื่อไรก็ได้ถ้าเรามีสติพอ มีวิธีคิดที่ดี คิดเป็น ยังไงก็ไม่อับไม่จน เจอก็เจอแต่มิตรบุญที่ดี ขอให้พระองค์ท่านส่งแต่มิตรบุญที่ดีมาให้ลูก ๆ ทุกคน

 

 

Host: คุณแม่ยังมีความปรารถนาอะไรกับลูก ๆ ทั้ง 3 คน อีกไหมคะ ที่อยากจะให้เขา อยากจะเห็นเขาในอนาคต เพราะว่าวันนี้พวกเขาก็ยังอยู่ในวัยกลาง ๆ ความมุ่งหวังที่มีต่อลูกแต่ละคนเป็นอย่างไรคะ

 

คุณแม่แพม: แม่ไม่ได้มุ่งหวังอะไรแล้วนะคะ เพราะว่ามันเป็นในทางการทำงานของแต่ละคนแล้ว น้องแพนเองก็อาจจะมีวิธีการทำงานที่เปลี่ยนไปตามสเต็ปชีวิตของเขาที่ก็คงจะลงตัว ส่วนพัตเตอร์เองก็ถ้าเข้ารับราชการหรือยังดำรงอยู่ในการเป็นข้าราชการที่ดีของแผ่นดินไปตลอดเขาก็หมดห่วง หลานก็เป็นเรื่องของครอบครัวเขาที่แยกออกไปแล้ว เป็นหน้าที่ของเขาแล้ว แม่ก็แค่คอยช่วยดูห่าง ๆ ส่วนลูกคนเล็กเองก็คิดว่าไม่ห่วงเลย เพราะพูดอยู่ตลอดเวลาว่า แม่ไม่ห่วงเลยว่ามิกิจะไม่มีอาชีพอะไรเพราะว่ามิกิมีความรอบรู้และสู้กับเรื่องต่าง ๆ ในชีวิต ไม่ห่วงอะไรเลย ห่วงแค่อย่าให้ความดีในตัวลดลงไปดีกว่าในตัวตนของแต่ละคน อย่าได้เปลี่ยนตัวเองในเรื่องอย่างนี้เลย อะไรก็เปลี่ยนได้ งานก็เปลี่ยนได้ เพื่อนก็เปลี่ยนได้ แต่ความดีในตัวตนที่มีอยู่อย่าเปลี่ยนเด็ดขาด ถ้าเราวอกแวกออกไปชีวิตก็จะล้มเหลวง่าย

 

 

Host: สำหรับแม่แล้วลูก ๆ มีความหมายยังไงบ้างคะ

 

คุณแม่แพม: ลูกคือที่สุดในชีวิตของเรา คือทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้แม่กล้าทำให้ทุกอย่างโดยแม่ไม่กลัว เคยคิดเหมือนกันนะสมมุติว่า ถ้าเราตกลงไปในไฟ ระหว่างเรากับลูก เราจะเสียสละให้ลูกไหม ถ้ามันเกิดอะไรขึ้นเราจะยอมทำอะไรแทนลูกไหม แต่บทสรุปก็คือ เราก็คงทำเพราะด้วยความรักลูก เราก็ชอบนึกไปไง ถ้าเกิดวิกฤติอะไรที่เป็นอันตราย เราก็คงกระโดดเข้าไปปกป้องลูก เราไม่รู้หรอกว่ามันจะมีผลร้ายอะไรกลับมาทีหลัง แต่ฉันต้องเอาลูกให้พ้นจากนาทีตรงนั้นก่อนแหละ 

 

สำหรับแม่และก็คิดว่าแม่หลาย ๆ คนก็คงคิดแบบแม่ “ไม่อยากให้ลูกเลิกรักเราเหมือนกัน” คือเราคงหยุดรักลูกไม่ได้แน่ แต่ก็มีแอบคิดนะคะว่า อ๋อ...ที่บางคนเขามีเรื่องทะเลาะกันระหว่างแม่ลูก มันคงมาจากอย่างนี้นี่เอง เวลามีอะไรมาสะกิดใจนิดนึง เราก็จะมองไปรอบ ๆ แล้วก็พิจารณาว่า ถ้าเราไม่อยากให้มันบานปลายไป อย่างนั้นเราต้องรีบจัดการแก้ไข ก็คงไม่อยากให้ลูกไม่รักเรา ทำทุกอย่างที่ให้ลูกยังคงรักเราอยู่ ทั้ง ๆ ที่เราก็แก่ลง อาจจะพูดเยอะขึ้น อาจมีความน่าเบื่อมากขึ้น ก็อยากให้อย่าเลิกรักแม่เพราะแม่รักลูกอยู่แล้ว ต่อให้ลูกเป็นอะไร จะผิด จะถูก แม่ก็รักรักสุดหัวใจ ยังกอดได้หอมได้ถึงลูกจะแก่ก็เถอะ 

 

เพราะเรานึกถึงเรากับพ่อ เราไม่เคยกอดกัน แต่พอพ่อแก่ พ่ออยากแต่จะมากอดมาหอมเราอะ เราก็แก่ พ่อก็ยังรู้สึกเหมือนเดิมว่าเราเป็นเด็ก ก็เหมือนเรา ลูกจะโตแล้ว จะสกปรกแค่ไหน ตอนเด็ก ๆ ก็เนื้อตัวหอมไปหมด พอแก่ก็สกปรกเนี่ย อย่างพัตเตอร์เนี่ยหัวก็เหม็นเขียวแต่แม่ก็หอมได้ ส่วนลูกสาวไม่ต้องพูดถึง เราก็กอดกันตลอด ทุกอณูในตัวเรามันมีแต่คำว่าลูก 

 

ถ้าถามว่าให้เลือกอะไรในชีวิตนะ ไม่ว่าอะไรก็ตาม แม่เลือกลูกเท่านั้น สำหรับผู้หญิงคนนี้ที่เป็นแม่ ลูกเท่านั้นไม่มีอะไรสำคัญกว่านี้ แต่ลูกจะอยู่กับเราไปแค่ไหน แม่ไม่อยากคาดหวัง แต่ก็อย่างที่บอกอยากให้ลูกอยู่ใกล้ ๆ ไปจนตลอดชีวิตของเรา

 

ในบทบาทความเป็นแม่นะคะ นอกจากแม่ในครอบครัวเราแล้ว อย่างที่บอกว่าเราก็ต้องสวมวิญญาณเป็นแม่ในทุก ๆ ที่ด้วย เวลาเราออกไปไหนแม่ก็จะเรียกว่าลูกทุกคน เพราะในวัยแบบนี้ก็จะเรียกลูก ๆ ไปหมด นั่นก็เป็นสเต็ปแรกของเราแล้วว่า เรามีความเมตตากับทุกคนนะ การที่เราจะพูดคำว่าลูกออกไปกับทุกคนได้ในทุกคนทุกชนชั้น นั่นแสดงว่าเรารักด้วยจิตอย่างนั้นจริง ๆ แล้ว ไม่ว่าจะเป็นคนเก็บขยะ คนมาก่อสร้าง เราก็สามารถเรียกว่าลูก แม่ก็อยากให้ทุกคนรู้ว่า คำว่าแม่เป็นคำที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ

 

ถ้าเราเทียบว่าสิ่งที่ยิ่งใหญ่ของแผ่นดินไม่ว่าจะเป็น แม่น้ำ แม่โพสพ เป็นแม่ที่ยิ่งใหญ่ที่มีพระคุณต่อเราอย่างที่สุดแล้วในการหล่อเลี้ยงชีวตเราให้ดำเนินมาได้ แม่ก็อยากให้ทุกคนคิดถึงว่าแม่เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน คือเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ ไม่ว่าแม่จะอยู่ในสถานการณ์เช่นใด จะลำบาก จะโชคดีแค่ไหน แม่ก็คือผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่ แม่เชื่อว่าทุกคนจะเป็นแม่ได้ตามแต่โอกาสที่จะยิ่งใหญ่ได้ขนาดไหน 

 

เหมือนแม่น้ำที่ให้น้ำหล่อเลี้ยงพวกเราทั้งโลก แม่โพสพก็ให้เรามีข้าวกิน ก็มีคุณเหลือประมาณจริง ๆ แล้วพอเรามาเป็นแม่ เราก็ต้องทำให้ได้แบบนั้น มอบความยิ่งใหญ่ให้กับโลกนี้ เราตัวเล็ก ๆ แม่เล็กเนี่ยทำได้เศษเสี้ยวของท่านก็ถือว่าเป็นกุศลของเรา แม่ก็อยากให้ทุกคนรู้ว่า คนเป็นแม่มีแต่ให้อย่างเดียว 

 

อย่างแม่น้ำเราให้อะไรคืนกลับท่าน เราก็ต้องช่วยกันอนุรักษ์แม่น้ำให้สะอาดเสมอ แค่นั้นเรามองก็มีความสุข ท่านก็มีความสุข สิ่งมีชีวิตอื่น ๆ มีความสุข แม่โพสพก็เหมือนกัน ท่านให้เราได้มีข้าวกิน ก็ควรกินอย่างรู้คุณค่า เฉกเช่นเดียวกับแม่ที่ลูกรักษาน้ำใจแม่ แม่ก็คือผู้ให้ ก็อยากให้คนที่ถูกเรียกว่าลูก ได้ย้อนคืนกลับมาให้กำลังใจกับแม่ทุกคนด้วยนะคะ

 

 

Host: วันนี้นะคะก็ได้คุยกับแม่ ได้มุมมองในชีวิตหลาย ๆ อย่าง โดยเฉพาะที่แม่บอกว่าความยิ่งใหญ่ของคำว่า “แม่” มันไม่ใช่แม่ที่เป็นตัวตนเท่านั้น แต่นึกถึงแม่น้ำ แม่คงคา แม่โพสพ แม่ธรณี แม่ของโลกใบนี้ที่ทำให้เราทุกคน ลูก ๆ ในโลกใบนี้อยู่กันได้อย่างมีความสุข 

 

คำว่าแม่ยิ่งใหญ่จริง ๆ และที่สำคัญแม่ทุกคนรักและพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อลูก แม้กระทั่งชีวิตก็ยังให้ลูกได้ เราที่เป็นลูก ๆ ลองกลับ หยุด แล้วมามองถึงแม่ของเราเองดูสิคะว่า วันนี้เราเองได้รักแม่ ห่วงแม่ ให้ความรักกับแม่อย่างที่ท่านเคยให้เรามาหรือเปล่า ลองดูนะคะ กลับไปกอดแม่ กลับไปบอกรักท่าน รับรองว่าท่านจะชื่นใจและมีความสุขมาก ๆ วันนี้ดีใจมาก ๆ ที่ได้มาคุยกับแม่แพมในวันนี้ค่ะ ขอบคุณค่ะ

 

 

 

 

 

 

ผู้ดำเนินรายการ:  คุณแม่แพม นวลนง จามิกรณ์ / สุรางคณา สุนทรพนาเวศ

บรรณาธิการ:  นันทิญา จิตตโสภาวดี

กองบรรณาธิการ: นมิดา แพ่งสภา, ปัณณธร ใสแสง, รุจา สุขพัฒน์, นีรชา คัมภิรานนท์, สุสมา สุขพัฒน์

ศิลปกรรม:  ฐานิสร์  ริ้วสุวรรณ, เอกชัย เธียรสรรชัย
นักออกแบบเสียง:  ธัญธนวรัท  ชนกชัด

ฝ่ายผลิต: ชลธิศ กรดี

ที่ปรึกษา:  วันชัย  บุญประชา, ดร.สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน

สนับสนุนโดย  สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

 

OTHER