ส่งต่อรักแบบแม่ EP.03 คุณลูกชิน (ชินวุฒ อินทรคูสิน)

16 ตุลาคม 2020 225 ครั้ง

ส่งต่อรักแบบแม่ EP.03 คุณลูกชิน (ชินวุฒ อินทรคูสิน)

“จริง ๆ แล้วชินก็เป็นลูกที่อยู่ในความฝันของแม่นะ คือผู้ชายคนนี้เป็นชีวิตของแม่ You and Sophie are my life. I’m happy with it. แม่เป็นคนขี้บ่น เป็นคนทำอะไรเยอะ ไม่มีใครขอให้ทำแต่ก็ทำ.....คือเหมือน It’s my destiny. I have you and Sophie. Sophie is miracle.” ฟังมุมมองความรักแบบแม่ของ "ลูกชิน ชินวุฒ อินทรคูสิน" ได้ใน ส่งต่อรักแบบแม่ EP.03 คุณลูกชิน (ชินวุฒ อินทรคูสิน)

 

ลูกชิน: สมมุติผมยกตัวอย่างน้องสาวผมก็ได้ แล้วมันถูกส่งต่อมาที่ผมด้วยนะ น้องสาวผมสักเป็นความชอบของเขา หลาย ๆ คนก็มองว่า ทำไมเด็กผู้หญิงคนนี้สัก ซึ่งตอนแรกแม่ก็ไม่โอเคหรอกนะ เพราะว่าลูกสาวด้วยแหละ แต่พอแม่ได้เห็นว่า โซฟี่เขามีความสุข แม่ยอมที่จะให้โซฟี่แฮปปี้กับตัวเองแล้วสัก มากกว่ามองตัวเองไม่สวย

 

 

Host: แม่ดูที่หัวใจของน้องว่าน้องมีความสุขกับอะไร

 

ลูกชิน: ใช่ครับ น้องผมเป็น LQBT แต่แม่ผมไม่เคยว่า เขาซัพพอร์ท แล้วผมเองก็ซัพพอร์ทไปโดยปริยาย เพราะว่าเราถูกสอนมาแบบนี้ว่า value ของคนมันอยู่ที่จิตใจของคน คือผมไม่เคยโทษพ่อแม่คนไหนที่อยากให้ลูกได้ดีนะ เพราะมันคือความต้องการของพ่อแม่ทุกคนที่อยากให้ลูกได้ดี ผมจะใช้คำนี้เสมอครับว่า “ความหวังดีหรือสิ่งที่ดีที่สุดที่พ่อแม่เห็น อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดที่ลูกเห็น” เพราะคำว่าดีมันถูกตีความไม่เหมือนกัน 

 

ถ้าถามว่าทำอย่างไรผมอาจจะไม่สามารถตอบได้ แต่ผมพูดได้นะว่าในฐานะลูก เราต้องค่อย ๆ ทำให้เขาเห็นว่า สิ่งที่เราเป็น มันไม่ได้แย่ เราต้องพิสูจน์ให้เขาเห็นว่า เราก็ทำให้เขาภูมิใจได้ในแบบของเรานะ ไม่จำเป็นจะต้องเป็นในแบบของเขา ผมว่ามันไม่มีอะไรที่พูดได้ดังมากกว่าการพิสูจน์ตัวเอง

 

 

Host: การกระทำนะ

 

ลูกชิน: ใช่ครับ การกระทำมันสำคัญมากกว่าการไปเถียง หรือการพูดครับ การเป็นตัวของตัวเอง มันเป็นบทพิสูจน์ว่า เราไม่เบียดเบียนใคร เรามีความสุข เราประสบความสำเร็จ มันทำให้เกิดอะไรดี ๆ นะ ผมว่าพ่อแม่เขาก็ยอมรับแหละ เขาไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าการให้ลูกมีความสุข เพราะเขาเชื่อว่า สิ่งที่เขาอยากให้ลูกได้ อยากให้ลูกเป็น มันจะทำให้ลูกมีความสุข แต่เป็นในแบบของพ่อแม่ที่เขาคิด ซึ่งมันไม่ผิด เขาคิดว่านี่คือความสุขที่ลูกน่าจะได้นะจากคุณค่าที่เขามอง แต่ก็มีเรื่องที่ไม่ควรทำเช่นกัน เช่น การทำร้ายคนอื่น การเอาเปรียบคนอื่น ซึ่งอันนี้มันเป็นพื้นฐานของศีลธรรม จรรยาบรรณ ไม่ใช่ว่าผมอยากไปต่อยคนนี้ ผมเป็นคนแบบนี้ เป็นตัวของตัวเอง เฮ้ย! เดี๋ยวก่อนมันไม่ใช่

 

 

Host:  ลูกไปต่อยเลยเดี๋ยวแม่ไปประกันตัวให้ มันไม่ใช่เนอะ

 

ลูกชิน: บางสิ่งบางอย่างมันก็ต้องมีขอบเขต มีศีลธรรม ไม่ใช่ว่าจะตามใจไปทุกอย่าง ผมว่าการที่ทำให้เสียใจมันบังคับไม่ได้ อย่างนี้ครับ คนที่จะเสียใจ เขาไม่จำเป็นต้องเป็นแม่เราก็ได้ เป็นเพื่อน เป็นแฟนก็ได้ เขาเสียใจโดยที่เราไม่ได้ตั้งใจก็มี เพราะฉะนั้นผมไม่สามารถบอกได้ว่า อย่าทำให้แม่เสียใจ

 

 

Host:  แต่ถ้าเรารู้ว่าอะไรที่จะทำแล้วเขาเสียใจก็อย่าทำ

 

ลูกชิน: แต่ถ้าสิ่งนั้นมันไม่ได้ผิดจริง ๆ ละ เด็กก็จะคิดอย่างนี้ไง ไม่ได้คิดว่า ทำแล้วแม่จะเสียใจไง มันเป็นไปได้ไหมที่เด็กจะคิดว่า เราทำแบบนี้ก็ไม่เห็นจะผิดเลยนี่ แต่แม่ไม่ชอบ นั่นก็อย่างที่บอก มันมีศีลธรรม มีความถูกต้อง มันมีหลายปัจจัย ท้ายสุดแล้ว ถ้าแม่เสียใจ ก็ต้องมานั่งคุยกันว่า ทำไมมุมมองของแม่เมื่อผมทำแบบนี้แล้วแม่เสียใจ ก็ต้องมาคุยกัน ซึ่งลูกก็จะมีมุมมองของลูก แต่ท้ายสุดแล้ว มุมมองของใคร อะไรที่มันอยู่จุดกลางเป็นมุมมองที่เวิร์กสุด มันก็ควรจะเป็นแบบนั้นหรือเปล่า

 

ผมรู้สึกว่าท้ายสุดแล้ว ในทุกความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นกับแม่ กับแฟน กับประชาชน กับคนในที่ทำงาน มันคือ human interaction มันคือมนุษย์กับมนุษย์ ซึ่งมนุษย์เติบโตมาแบบหนึ่ง มีความคิดแบบหนึ่ง ความดีความชอบไม่เหมือนกัน value คุณค่าไม่เหมือนกัน คนอีกคนหนึ่งไม่ว่าจะเป็นแม่หรือใครก็แล้วแต่ ก็เติบโตมาอีกแบบหนึ่ง ความคิดอีกแบบหนึ่ง เพราะฉะนั้น คน 2 คน ที่ความคิดเหมือนหรือไม่เหมือนกัน มันเกิดความขัดแย้ง มันต้องเกิดการพูดคุยกันอยู่แล้ว 

 

ไม่ว่าจะเป็นพ่อเป็นแม่ หรือเป็นความสัมพันธ์แบบไหนก็แล้วแต่ มนุษย์คือมนุษย์อะ มันมีตรงนี้ที่ต้องชนกันอยู่แล้วเป็นธรรมชาติ แค่อย่าทำให้มันระเบิด เพราะอย่างเดียวที่มันทำให้ระเบิดคืออารมณ์ เพราะฉะนั้น ถ้าเราสามารถที่จะคุยกันได้ มีอารมณ์ก็ได้ แต่คุยกันด้วยเหตุและผลมากกว่า ผมว่าความขัดแย้งมันจะลดลง และมีจุดกลางที่สามารถเชื่อมต่อกันได้

 

นี่คือสิ่งที่ผมทำมาแล้ว ผมก็เลยพูดได้ว่า มาถึงจุดที่ผมกับแม่แทบจะไม่ทะเลาะกัน ผมว่าอย่างเดียวที่ทะเลาะกันคือ อยากให้แม่หยุดทำงานบ้านได้แล้ว แต่ก็เข้าใจว่าไม่อยากให้บ้านสกปรก แต่ตอนนี้แม่บ้านไม่สามารถมาทำงานได้เพราะเขาเพิ่งคลอดลูก แม่ก็เลยทำเอง ผมเข้าใจแม่แต่ต้องพักบ้าง เขาบอกว่าแม่พักไม่ได้หรอกเดี๋ยวบ้านมันไม่สะอาด

 

 

Host:  นั่นเป็นความสุขของเขาหรือเปล่า

 

ลูกชิน:  ความสุขก็ใช่ แต่สุดท้ายก็มาเหนื่อยไง แต่เขาไม่หลับด้วยเพราะผมเล่นเกมเสียงดัง อะไรอย่างนี้เราก็ทะเลาะกันเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่แม่ก็อยากให้ผมพักเหมือนกัน เนี่ย ๆ ดื้อทั้งคู่ ท้ายสุดมาเข้าใจกันเพราะว่าเป็นแบบเดียวกันไง

 

เพราะผมโตขึ้นด้วยแหละ ผ่านอะไรในชีวิตมาค่อนข้างเยอะ ผมไปเป็นทหาร มีอุบัติเหตุที่ขาจนเกือบเดินไม่ได้ ด้วยความซน ความซ่าของผม มันทำให้เราเจออะไรมาเยอะ พอเจอเยอะแล้วเราสามารถจะมองชีวิตเราแบบนี้ได้ เรารู้สึกว่าทุกอย่างมันก็เริ่มเบาลง มันอยู่ที่ตัวผมด้วยแหละ ผมไปบวชมาด้วย อะไรหลายอย่าง เหมือนชีวิตผมมันเป็น สเต็ปที่ต้องเจออะไรหนัก ๆ แล้วค่อยไปเจอการคลี่คลายจากบางสิ่งบางอย่าง แล้วก็ทำให้เราเรียนรู้ แล้วก็ไปเจออีกก็เป็นแบบนี้ตลอด 

 

ตอนที่เป็นทหาร ผมก็ไม่คิดเลยว่าจะได้เป็น หรือต้องเป็น พอไปเป็นปุ๊ป ทุกอย่างในชีวิตงงไปหมด แต่ผมได้เรียนรู้จากการเป็นทหาร ผมได้บวชก็ได้เรียนรู้จากการบวช แล้วพอเป็นทหารเกิดอุบัติเหตุ ขาเกือบเดินไม่ได้ ก็นอยด์ ซึมเศร้าไป แล้วเรียนรู้จากตรงนั้น แล้วเติบโตขึ้นมาอีก มันมีสเต็ปให้เรียนรู้ ทุกอย่างในชีวิตที่ทำให้เราเติบโตจนเราเข้าใจแม่ว่า อ๋อ..การเหนื่อยแล้วทำให้เราเรียนรู้ การเป็นแบบนี้ ๆ การทำแบบนี้ ๆ มันเป็นยังไง เลยทำให้เราเข้าใจเขามากขึ้น

 

 

Host:  ถ้าชินสามารถขอพระได้สักข้อหนึ่งให้แม่ได้ อยากจะขอพรอะไรให้กับแม่ ขอจากหัวใจของลูกคนหนึ่งมอบให้แม่

 

ลูกชิน:  อะไรที่ให้ได้... ให้ เพราะฉะนั้นมันเลยไม่มีอะไรที่เราคิดว่าเป็นสิ่งที่อยากให้ เพราะอะไรก็ได้ ให้ได้หมด ก็เลยไม่ได้มีความคิดว่าจะขออะไร จะให้อะไร ชีวิตก็ให้ได้โดยไม่ต้องคิดเลย

 

 

Host:  แล้วถ้าอยู่ ๆ วันพรุ่งนี้แม่ต้องตายไป เราจะเป็นยังไงบ้าง

 

ลูกชิน: อยู่ได้ครับ ต้องอยู่ได้ เพราะว่ามันเป็นสิ่งเดียวที่แม่ขอผม ต้องอยู่ได้ ต้องเข้มแข็ง ต้องไปต่อ แล้วก็แม่ว่าบอกถ้าเกิดวันหนึ่งแม่ต้องนอนอยู่บนเตียงแล้วช่วยเหลือตัวเองไม่ได้แล้ว ให้ปล่อยแม่ไปนะ แม่ไม่อยากทรมาน เพราะฉะนั้น ถ้าผมยังอยู่แล้วอยู่ดี ๆ แม่ไป เราก็ต้องทำให้เขาทรมานน้อยที่สุด หากเขามองลงมา เพราะมันเป็นคำขอสุดท้ายของเขา 

 

เพราะฉะนั้นต่อให้เขาอยู่หรือไม่อยู่ เราก็ต้องทำตัวให้เขาไม่เหนื่อยอีก อยู่ได้ครับ มันคือสัจธรรม สักวันหนึ่งเขาก็ต้องไปครับ เราก็ต้องไป ผมก็ค่อนข้างจะปลงกับชีวิตก็ว่าได้นะ แค่เราเข้าใจกับมัน วันหนึ่งเขาต้องไปก็คือต้องไป เขาคงเหนื่อยมาพอแล้ว หรือถ้าวันหนึ่งผมต้องไปก่อนก็อย่าเสียใจ เพราะเราไม่รู้อะไรเลยจริง ๆ

 

ตอนนี้คนไปกันไวมาก รอบ ๆ ตัวเราไปกันแบบเรางงหมดเลย คุณตาผมเข้าโรงพยาบาล 4 วัน ตรวจพบว่าเป็นมะเร็ง ย้ายโรงพยาบาลแล้วไปเลย เพื่อนผมแฟนหายใจไม่สะดวก เข้าโรงพยาบาลเจอมะเร็งเม็ดเลือดขาว 3 วันไปเลย มันเลยทำให้เรากลับมาทบทวนและตระหนักว่า มีความสุขกับทุกวันเถอะ มีเถอะ อย่าแค่พูด ๆ ไป มีความสุขกับทุกวันจริง ๆ เถอะ 

 

เพราะเราไม่รู้จริง ๆ ว่าเราจะไปเมื่อไหร่ แต่ไม่ใช่ว่าเออไม่ต้องออกกำลังกายแล้วละ เดี๋ยวก็ไป ไม่ใช่ ก็ต้องดูแลตัวเองให้ได้นานที่สุด แต่ในขณะเดียวกัน เราก็ต้องมีความสุขกับทุกวันด้วย เพราะเราไม่รู้เวลาของคนเราที่จะไปจริง ๆ

 

 

Host:  ท้ายที่สุดค่ะคุณแม่ อยากให้แม่ไปหาน้องชิน น้องชินอยากจะบอกอะไรกับคุณแม่หน่อยค่ะ ให้คุณแม่ชื่นใจ

 

ลูกชิน: โอ๊ยบ้าบอเขิน...แม่สวย จริง ๆ ไม่ได้โกหก ที่บอกว่าไม่รู้จะพูดอะไรหมายถึงว่า สิ่งที่พี่ (Host) อยากให้พูด เราพูดกันทุกวันอยู่แล้วครับ จริง ๆ

 

 

Host: แม่มีอะไรจะพูดถึงชินไหมคะ ถ้าจะบอกให้คนอื่น ๆ ได้รู้ในฐานะลูกชายของแม่ แม่ภูมิใจอะไรในตัวเขาบ้าง

 

คุณแม่เอเลน: จริง ๆ แล้วชินก็เป็นลูกที่อยู่ในความฝันของแม่นะ คือผู้ชายคนนี้เป็นชีวิตของแม่ You and Sophie are my life. I’m happy with it. แม่เป็นคนขี้บ่น เป็นคนทำอะไรเยอะ ไม่มีใครขอให้ทำแต่ก็ทำ

 

ลูกชิน: แล้วก็บ่น ไม่ได้บ่นให้ฟังนะ แต่บ่น ๆ ไปเรื่อย (หัวเราะ)

 

คุณแม่เอเลน: คือเหมือน It’s my destiny. I have you and Sophie. Sophie is miracle.

 

ลูกชิน: คือตอนแรกแม่ไม่ได้คิดจะมีลูกอีกคนแล้ว

 

คุณแม่เอเลน: ตอนแรกมีคนบอกว่าครอบครัวนี้จะมีแต่ลูกชาย พอ 9 ปีผ่านมาแล้วยังท้องอีกที แล้วก็เป็นลูกสาวออกมา ซึ่งแม่รู้เลยตั้งแต่ตอนท้องนะว่าเป็นผู้หญิง

 

Host: ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ ขอบคุณคุณแม่ คุณลูกมาก ๆ ค่ะ

 

 

 

 

ผู้ดำเนินรายการ:  คุณลูกชิน ชินวุฒ  อินทรคูสิน / สุรางคณา สุนทรพนาเวศ

บรรณาธิการ:  นันทิญา จิตตโสภาวดี

กองบรรณาธิการ: นมิดา แพ่งสภา, ปัณณธร ใสแสง, รุจา สุขพัฒน์, นีรชา คัมภิรานนท์, สุสมา สุขพัฒน์

ศิลปกรรม:  ฐานิสร์  ริ้วสุวรรณ, เอกชัย เธียรสรรชัย
นักออกแบบเสียง:  ธัญธนวรัท  ชนกชัด

ฝ่ายผลิต: ชลธิศ กรดี

ที่ปรึกษา:  วันชัย  บุญประชา, ดร.สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน

สนับสนุนโดย  สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

 

 

 

 

OTHER