เรื่องงอแงไม่อยากไปโรงเรียนของลูกวัยอนุบาลเป็นเรื่องปกติของเด็ก เพราะเด็กจะมีลักษณะกลัวการแยกจาก ซึ่งจะเกิดได้ต้องมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นมาก่อน เมื่อต้องจากก็จะไม่มั่นใจ เครียด กลัว แต่โดยวัยแล้ว เมื่อต้องเข้าโรงเรียนเด็กจะมีวิธีการรับมือกับเรื่องนี้โดยธรรมชาติ แต่พ่อแม่ต้องมีการช่วยปรับเล็กน้อย 
 

ซ้อมไปโรงเรียน 

จริงแล้วควรมีการเตรียมตัวตั้งแต่เปิดเทอม เช่น พาไปทำความรู้จักโรงเรียน ไปรู้จักครูก่อน ไปเล่นของเล่นที่โรงเรียน ลองใส่ชุดนักเรียน ลองสะพายกระเป๋านักเรียน หาหนังสือนิทานที่เกี่ยวกับการไปโรงเรียนครั้งแรก อ่านให้ลูกฟังก่อน เข้านอนในเวลาเดียวกับการไปโรงเรียน 
 

ซ้อมมาดีแค่ไหน วันจริงก็มีน้ำตา 

ไม่ว่าเราจะเตรียมแบบไหนลูกก็จะร้องเสมอ แต่การเตรียมจะลดความเข้มข้นลงได้บ้าง เป็นเรื่องปกติที่มีการกลัวการแยกจาก สิ่งสำคัญคือ เวลาไปส่งลูก ส่งปุ๊บก็จุ๊บกัน บ๊ายบาย บอกลูกว่า เลิกเรียนแล้วแม่มารับ ให้จังหวะนี้สั้นกระชับ อย่าอ้อยอิ่ง เพราะจะยืดเวลาอาการงอแงมากขึ้น ให้เชื่อใจคุณครูที่จะรับมือกับลูกเราที่งอแง 
 

ถึงแม้เด็กที่มีความผูกพันแน่นแฟ้นดูเหมือนจะงอแงมากเมื่อต้องแยกจากพ่อแม่ แต่ในระยะยาวจะมีความมั่นคงได้ดี เพราะเด็กที่โตมากับพ่อแม่ที่ไม่ผิดสัญญากับลูก ลูกก็จะรู้สึกปลอดภัย มั่นคง และไว้ใจ เชื่อใจพ่อแม่เช่นกัน ซึ่งอาการที่เด็กจะงอแงมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับพื้นฐานอารมณ์ภายในใจของเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน ฉะนั้น จึงเกิดจากความสัมพันธ์ก่อนหน้านี้มาก่อน 

การแอบดูไม่แนะนำ

สำหรับพ่อแม่หลายคนถ้าอยากแอบก็ต้องแอบไม่ให้ลูกเห็น แต่ทางที่ดีให้ไว้ใจครู เพราะถ้าลูกเห็นก็จะรู้สึกไม่มั่นคง ไม่มั่นใจตามพ่อแม่ 
 

เวลาการรับลูก

ต้องมารับลูกให้ตรงเวลา เพราะถ้าผิดสัญญาหรือมารับลูกช้ามาก แล้วเพื่อน ๆ กลับไปแล้วเด็กก็อาจจะรู้สึกไม่ดี การปรับตัวก็จะยากขึ้น นานขึ้น พอกลับบ้านชวนลูกพูดคุยเรื่องโรงเรียน ยอมรับและรับรู้ความรู้สึกของเด็ก 
 

ปรับตัวนาน...ผิดปกติหรือไม่ 

ในเด็กปกติ 1-2 อาทิตย์ก็จะปรับตัวได้ แต่ถ้ายิ่งเวลานาน ยิ่งรับมือยาก เช่น ตื่นยากขึ้น อิดออดมากขึ้น มีอาการเหมือนป่วย แบบนี้ต้องไปหาสาเหตุ เพราะไม่ใช่เรื่องปกติ ต้องไปถามคุณครูว่า ตอนอยู่โรงเรียนลูกมีพฤติกรรมอย่างไร ต้องช่วยแก้ที่จุดไหนให้เขาปรับตัวได้ เพราะอาจไม่ใช่แค่ความงอแงปกติ 

พฤติกรรมเปลี่ยนไป..หลังจากไปโรงเรียน 

เช่น การพูดคำหยาบ จากที่เคยพูดเพราะก็กลายเป็นมีคำศัพท์ไม่น่ารักกลับมา เราคงต้องลองถามลูกว่า “ใครพูดให้ลูกฟัง แม่ว่าคำนี้ไม่ค่อยน่ารักไหม แม่ขอให้หนูกลับไปพูดแบบเดิมได้ไหม” ไม่ต้องไปลงโทษ หรือตกใจมากมาย เพราะเด็กอาจจะยังแยกแยะไม่ได้ว่าคำไหนไม่ดีจนกว่าจะมีผู้ใหญ่บอก เพราะถ้าเพื่อนคุยกับลูกเขาจะไม่รู้

ผู้ดำเนินรายการ:  รศ.พญ.วนิดา เปาอินทร์ และ นันทิญา จิตตโสภาวดี

บรรณาธิการ:  นันทิญา จิตตโสภาวดี

กองบรรณาธิการ: นมิดา แพ่งสภา, ปัณณธร ใสแสง, รุจา สุขพัฒน์, นีรชา คัมภิรานนท์, สุสมา สุขพัฒน์

ศิลปกรรม:  ฐานิสร์  ริ้วสุวรรณ, เอกชัย เธียรสรรชัย

นักออกแบบเสียง:  ธัญธนวรัท  ชนกชัด

ฝ่ายผลิต: ชลธิศ กรดี

ที่ปรึกษา:  วันชัย  บุญประชา, ดร.สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน

สนับสนุนโดย  สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)